X

นครฯ – คนเมืองคอน บ่นอุบ! ก๊าซขึ้น ค่าไฟจ่อปรับ

นครศรีธรรมราช : ราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้น ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าพากันบ่นระนาว เพราะต้นทุนพุ่ง สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของรัฐบาลและนักการเมืองในสภาฯ

วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ภายหลังการประกาศดีเดย์ ปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มอีก 1 บาท/กิโลกรัม ส่งผลให้ถังขนาด 15 กิโลกรัมที่นิยมใช้ตามครัวเรือนและร้านค้าย่อย ปรับขึ้นถังละ 15 บาท ขยับมาอยู่ที่ 393 บาทต่อถัง (ยังไม่นับรวมค่าบริการขนส่ง) ตามมมติ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ที่ให้ทยอยปรับราคาก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ขึ้น 3 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคม-กันยายน 2565 ขณะที่ค่าไฟฟ้าเตรียมจ่อปรับขึ้นราคาเช่นกัน

ส่งผลให้ประชาชน ทั้งตามครัวเรือน และบรรดาพ่อค่าแม่ค้าที่ประกอบอาชีพขายอาหารเครียดหนักไปตาม ๆ กัน เนื่องจากต้องเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายราคาก๊าซจากเดิม 15-20 บาทต่อถัง

นางวารี จำปารี แม่ค้าขายของทอด เปิดเผยว่า ช่วงก่อนโควิด-19 รายได้จากการค้าขายดีมาก โดยเฉพาะลูกชิ้นทอด ตนเองมีรถพ่วงถึง 4 คัน แยกย้ายกันขายตามจุดต่าง ๆ พอเข้าสู่ช่วงโควิด การค้าขายเริ่มแย่ลง ถึงขั้นต้องขายรถพ่วงไป 2 คัน กระทั่งสถานการณ์แย่ลงอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องขายรถพ่วงออกไปอีกคัน เพื่อนำเงินมาลงทุนต่อ จนเหลือเพียงคันเดียว

ปัญหาที่ผ่าน ๆ มา มีทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น โรคระบาด น้ำมันแพง เศรษฐกิจฝืดเคือง ส่งผลกระทบโดยตรงจนไม่สามารถรักษาทรัพย์สินย์ที่เคยมีไว้ได้ แต่ก็พยายามประคับประคองอาชีพค้าขายเรื่อยมา หวังเพียงว่าสถานการณ์ต่าง ๆ คงจะดีขึ้น แต่แล้วกลับถูกซ้ำเติมอีก ด้วยการขึ้นราคาของก๊าซหุงต้มในวันนี้ ถังละ 15-20 บาท แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร คำถามนี้ไม่มีคำตอบ แต่จะให้เลิกขายคงทำไม่ได้ คงต้องรักษาอาชีพไว้ เพราะเป็นสิ่งที่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้อยู่รอดได้ คงต้องปรับสภาพไปตามสถานการณ์ โดยขึ้นราคาขายอีกไม้ละ 3 บาท

ขณะที่ตามตลาดสดต่าง ๆ พบว่า เริ่มมีการปรับขึ้นราคาสินค้า อย่างที่ตลาดหัวอิฐ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตลาดขายส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคขนาดใหญ่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าพากันปรับขึ้นราคาสินค้าหลายชนิดจากเดิม 5-10 บาท ตามภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ด้านบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายข้าวแกง ก็ต่างพากันบ่นถึงการปรับขึ้นราคาก๊าซครั้งนี้เช่นกัน เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องแบกรับภาระเพิ่ม ที่ผ่านมามีการปรับขึ้นราคามาอยู่ต่อเนื่อง การค้าขายก็ต้องปรับตาม จากเดิมจานละ 25 บาท มาเป็น 35 บาท รอบนี้น่าจะขึ้นถึง 50-55 บาท ต่อจาน แต่ค่าแรงยังคงเหมือนเดิม

“วันนี้ รัฐบาลไม่เคยสนใจชาวบ้านว่าจะอยู่อย่างไร ต่างพากันต่อสู้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง มากกว่าที่จะมาต่อสู้เพื่อประชาชน ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นนักการเมืองจะคิดต่อสู้ทะเลาะกันในเรื่องปากท้องของชาวบ้านเลย” แม่ค้ารายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น กล่าวฝากถึงนักการเมืองด้วยความท้อใจ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน