ภูเก็ต – สสจ.ภูเก็ต แถลง หนุ่มเยอรมัน ติดฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) รายที่ 3 ของประเทศไทย และเป็นรายที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต บินมาหาแฟนสาวที่ไทย ไม่เคยไปเที่ยวผับ-บาร์ เร่งติดตามสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสเสี่ยงอีก 7 ราย
วันนี้ 3 ส.ค.65 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง รายที่ 3 ของประเทศไทย และเป็นรายที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต เป็นชายชาวเยอรมัน ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 ที่ผ่านมา และได้ไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผลออกมาว่า ติดเชื้อฝีดาษลิง และติดตามสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสเสี่ยงอีก 7 ราย
นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล สสจ.ภูเก็ต แถลงต่อว่า สสจ.ภูเก็ต ได้รับรายงาน วันที่ 2 ส.ค. ว่ามีผู้ป่วยเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งทางโรงพยาบาลดังกล่าว สงสัยว่าจะเป็นฝีดาษลิง เนื่องจากมีอาการเข้าข่ายน่าสงสัย คือ มีไข้ มีผื่นขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต จึงเจาะเลือด เพาะเชื้อส่งตรวจที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งสามารถตรวจ RT-PCR ฝีดาษลิงได้ ใช้เวลาไม่เกิน 1 วัน
จากการสอบประวัติผู้ป่วย ทราบว่า เป็นชายชาวเยอรมน อายุ 25 ปี บินตรงเข้า จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 ก.ค. มาพักกับแฟนสาวคนไทย ไม่ได้เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ และครอบครัวของแฟนพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนมากท่องเที่ยวกับแฟน ไม่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง
วันที่ 23-24 ก.ค. ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ มีผื่นขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วงวันที่ 30-31 ก.ค. มีผื่นมากขึ้น เริ่มที่อวัยวะเพศ ลามไปที่แขน ข้อมือ ลำตัว
วันที่ 1 ส.ค. เริ่มมีไข้ ผื่นมากขึ้น ลุกลามไปลำตัว วันที่ 2 ส.ค. จึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาล
นพ.กู้ศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มสัมผัสใกล้ชิด เป็นแฟนสาวและครอบครัวแฟน รวม 7 คน ตอนนี้ทั้ง 7 คนยังไม่มีอาการ ส่วนแฟนสาวได้เจาะเลือดตรวจ อยู่ระหว่างรอผล และให้กักตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เบื้องต้น อยู่ระหว่างการสอบหาที่มาโรคผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้ง 7 คน เนื่องจากโรคนี้ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยแบบเนื้อแนบเนื้อ การแพร่กระจายไม่ง่าย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายนี้เริ่มมีอาการหลังจากอยู่ไทยได้ประมาณ 5-6 วัน จึงน่าจะมีการฟักตัวมาจากต่างประเทศ เพราะระยะฟักตัว 21 วัน
