ฉะเชิงเทรา – เหยื่อเห็ดพิษ ช่วงฤดูฝนหลากเปิบช็อกหมดสติกลับบ้านได้แล้ว หลังแพทย์ให้นอนรอดูอาการนาน 2 คืน เหตุจากค่าผลทางเลือดและตับไม่ปกติ ล่าสุดหายดีแล้วบอกเข็ดหลาบและจดจำเจียนตาย ระบุขอซื้อเขามากินดีกว่า ขณะเห็ดลวงตามรณะที่ยังหลงเหลืออยู่ในโคนกอไผ่ 2 ดอก ได้ผลิเบ่งบานสะพรั่งล่อน้ำลายชวนให้คนหลงเด็ดมาทำต้มยำทำแกง พบขณะยังอยู่กับหน่อโคนนั้นมีสันสีสันขาวสดใส ก่อนเปลี่ยนเป็นพิษเมื่อถูกเด็ดแล้วใต้ปีกดอกจะคล้ำออกสีดำน้ำตาล
วันที่ 3 ส.ค.65 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูอาการของ นายประสิทธิ์ ตุ่นสมบัติ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 ม.11 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ที่บ้านพักข้างวัดหินดาษ ผู้ที่เก็บเห็ดไม่ทราบชนิดจากโคนกอไผ่ (ไม้เลี้ยง) มาบริโภค จนเกิดอาการป่วนท้องและอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงจนถึงขั้นซ็อกหมดสติฟุบคาพื้นบ้าน ก่อนถูกหามส่งไปยัง รพ.สนามชัยเขต อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 1 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
โดยนายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า หลังแพทย์ได้ทำการล้างท้องให้ตั้งแต่เดินทางไปถึงยังโรงพยาบาล อาการได้เริ่มดีขึ้นมาตามลำดับ และเกือบจะหายเป็นปกติเมื่อช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 2 ส.ค.65 แต่แพทย์ยังไม่อนุญาตให้กลับบ้าน เนื่องจากค่าของตับและผลของการตรวจเลือดยังไม่ปกติ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นค่าของผลการตรวจอะไร แต่แพทย์ได้เจาะเลือดของตนไปตรวจบ่อยครั้งมากในขณะที่อยู่ในโรงพยาบาล
ซึ่งในวันแรกหลังจากที่ตนฟื้นได้สติขึ้นมา และทราบว่าถูกนำส่งมายังโรงพยาบาลแล้ว ในขณะที่แพทย์และเจ้าหน้าที่กำลังสอดสายยางเข้าไปล้างภายในช่องท้องของตนนั้น ได้ยินแพทย์พูดกันว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหารด้วย จึงไม่ทราบว่าพิษของเห็ดนั้นกัดกระเพาะหรือไม่ แพทย์จึงได้ให้อยู่รอดูอาการเป็นเวลานานถึง 2 คืนที่ผ่านมา และได้อนุญาตให้กลับบ้านได้เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. ของวันนี้
ก่อนที่จะเดินทางกลับมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. หลังเดินทางกลับมาถึงได้อาบน้ำและกำลังเตรียมตัวจะนอนพักผ่อน เมื่อถูกถามว่าหลังจากนี้จะยังบริโภคเห็ดอีกไหมหรือเข็ดไหม นายประสิทธิ์ ตอบว่า เข็ดแล้วโดยจะไม่ไปเก็บเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมาบริโภคอีกแล้ว เพราะทำเอาตนเองเกือบถึงตาย แต่จะยังคงบริโภคเห็ดอยู่โดยขอซื้อเขามากินดีกว่า พวกเห็ดนางฟ้าเห็ดฟาง ที่เขาเพาะขาย เมื่อถามว่ารู้แน่ชัดหรือยังว่าที่กินเข้าไปเป็นเห็ดอะไร นายประสิทธิ์ ยังคงยืนยันว่าหมอบอกว่าเป็นเห็ดคางคกที่มีพิษร้ายแรง
และยังเล่าต่อว่า ครั้งแรกที่ตนพบเห็นนั้น ดูคล้ายกับเห็ดโคนและดอกผุดขึ้นมาสวยงามจนน่ากินมากเป็นสีขาวสะอาดสดใส จะผิดกันที่ก้านของดอก ซึ่งครั้งแรกตนไม่ได้สังเกต โดยเห็ดพิษที่กินเข้าไปนั้นจะมีลักษณะก้านดอกที่ยาวกว่าเห็ดโคน และเมื่อถูกเด็ดออกมาแล้ว ที่ใต้ปีกดอกและก้านจะเปลี่ยนเป็นสีออกคล้ำๆ น้ำตาล และหลังนำมาทดสอบโดยการโรยข้าวสารตามที่คนเก่าแก่บอกแล้ว ข้าวสารก็ยังไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือคล้ำลงอีก จึงได้นำมากินเพราะเข้าใจว่าไม่ใช่เห็ดเมา หรือเห็ดมีพิษ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดในครั้งนี้ จะไม่ขอเอาอีกแล้วเห็ดป่าหน้าฝนจะขอไปซื้อเขามากินดีกว่า เพราะสบายใจกว่าและไม่ต้องมาเสี่ยงชีวิตอีก ส่วนเห็ดที่เก็บมาทั้งหมดในวันนั้น ขณะนี้ไม่มีแล้ว เนื่องจากบุตรสาวได้นำเอาไปสาดทิ้งจดหมดแล้ว นายประสิทธิ์ กล่าว
