นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำนักก่อสร้างทางที่ 2 ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2 สาย นครราชสีมา – บรรจบทางหลวงหมายเลข 2067 (บ.บิง) ในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางยาวประมาณ 16.21 กิโลเมตร เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 6 ช่องจราจร แล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจราจร ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีนโยบายพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทั่วประเทศอย่างบูรณาการ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเดินทางสัญจรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ทางหลวงหมายเลข 2 สายนครราชสีมา – บรรจบทางหลวงหมายเลข 2067 (บ.บิง) ระหว่าง กม.161+281 – กม.177+500 มีจุดเริ่มต้นโครงการ อยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา ผ่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และสิ้นสุดโครงการที่ ตำบลบิง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 16.21 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเศรษฐศาสตร์ในการเดินทางท่องเที่ยวและการขนส่งด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงระหว่างภาค ทั้งภายในจังหวัดนครราชสีมา ไปยังจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เส้นทางสายนี้มีปริมาณจราจร 33,420 คัน/วัน (ปี 2560) และมีปริมาณรถบรรทุกมากถึง 22.59 % นับว่าเป็นการจราจรที่สูงและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีจำนวนช่องจราจร 4 ช่องจราจร เสี่ยงต่อการจราจรติดขัดและเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายในช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ จึงมีความเหมาะสมที่จะดำเนินการบูรณะปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของสายทาง กรมทางหลวงจึงดำเนินการก่อสร้างขยายสายทางดังกล่าว ระยะทางยาวประมาณ 16.21 กม. ลักษณะเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ขยายจากเดิม 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร ผิวทางแบบคอนกรีต กว้างช่องจราจรละ 3.5 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.5 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.5 เมตร รวมความกว้าง 14.5 เมตร รวมงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง งบประมาณ 697,277,000 บาท
ข่าวน่าสนใจ:
- กล้องวงจรปิดจับภาพ แม่รับลูกซ้อน 4 กลับจากโรงเรียน ชนรถ พ่วงบาดเจ็บสาหัส ลูกร้องระงม
- จับงูเหลือมยักษ์ขนาดใหญ่ยาวกว่า 4 เมตร เข้าร้านข้าวต้มชื่อดังกลางเมืองอรัญประเทศ
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- ครัวคุณต๋อยยกทัพ บุกขอนแก่น จับมือศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น ขนร้านอาหารชื่อดังนับร้อย มาเสิร์ฟสายกิน 11 วันเต็ม 14 - 24 พ.ย.นี้
เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นเส้นทางที่สามารถรองรับการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้น จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรในด้านความปลอดภัย มีความสะดวกและรวดเร็วในการคมนาคมขนส่ง ช่วยบูรณะและพัฒนาโครงข่ายทางหลวงสายหลักที่เชื่อมโยงระหว่างภาค ส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางปฏิบัติตาม “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้ร่วมทาง ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางการเดินทางได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: