ที่นครนายก เมื่อเวลา 23.00 น. (13 ส.ค. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท โดยมีอาวุธมีด ไล่ฟันกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง ถนน หน้า วัดวัดบุญนาครักขิตาราม (วัดต่ำ)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก พร้อมกู้ภัยร่วมกตัญญู รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงถูกอาวุธมีดฟัน 1 ราย (ไม่ทราบชื่อ) และชายถูกอาวุธมีดฟันที่มือด้านซ้าย 1 ราย ทราบชื่อนาย เกษม ดีพิด หรือท็อป สอบถามนาย เกษมฯ (ผู้บาดเจ็บ) เล่าว่าตนมาจาก จ.ขอนแก่น เพิ่งมาทำงานที่แคมป์นี้ได้ไม่นาน ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้น มีกลุ่มคนงานอีกกลุ่มซึ่งอยู่มาก่อน ได้เดินมาต่อว่ากลุ่มตน ว่าดึงน้ำออกทำไม เพราะน้ำฝั่งที่พักกลุ่มก่อเหตุไม่ไหล ซึ่งตนก็พยายามอธิบายแล้วว่าไม่รู้ถึงสาเหตุที่น้ำไม่ไหล แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุไม่รับฟังเพราะอยู่ในอาการมึนเมา หลังจากนั้นจึงได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดซึ่งตนถูกอาวุธมีดฟัน จึงได้วิ่งหลบหนีออกมา เพราะฝั่งตนมีคนเดียว แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุมากัน 3-4 คน
ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปที่พักแคมป์คนงานที่เกิดเหตุ พบกลุ่มคนอีกกลุ่มคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันนายเกษมฯ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ในมือได้ถือไม้อยู่ โดยได้เดินเข้ามายังที่พักของนาย เกษมฯ (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) ซึ่งเป็นจุดที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์อยู่ แต่มีคนทางฝั่งผู้ถือไม้ได้รีบวิ่งมาดึงตัวกลับไป ซึ่งต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับคนที่ถือไม้ ทราบชื่อขวัญชัย อุปจักร อายุ 23 ปี เป็นคน จ.น่าน ได้เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังอาบน้ำอยู่ แต่อยู่ๆน้ำก็ไม่ไหล ตนจึงเดินมาถามทางฝั่งคนเจ็บว่า ดึงน้ำออกทำไม เพราะจุดต่อน้ำนั้นอยู่หลังที่พักของนายเกษมฯ (ผู้บาดเจ็บ) แต่ฝั่งผู้บาดเจ็บจึงเกิดความไม่พอใจ และได้ปาก้อนหินและอาวุธมีดเข้าไปใส่ทางกลุ่มตน หลังจากนั้นก็เลยเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันขึ้น ซึ่งตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนฟัน เพราะมันชุลมุนกันไปหมด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบชื่อ อินตอง อ่อนอั่ว อายุ 43 ปี ได้เล่าว่าเหตุเกิดจากเพียงน้ำไม่ไหล ซึ่งทางนายขวัญชัยฯ กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟัน นายเกษมฯ (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) ได้เดินมาถามทางกลุ่มนายเกษม(ผู้ได้รับบาดเจ็บ) หลังจากนั้นตนก็ได้เป็นคนเดินเข้าไปต่อท่อน้ำให้ซึ่งอยู่ด้านหลังที่พักของนายเกษม (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) เพื่อจะได้จบปัญหา โดยนายอินตองฯ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดต่อท่อน้ำที่เป็นปัญหาในการเกิดเหตุครั้งนี้ ซึ่งนายอินตองฯได้เล่าอีกว่าระหว่างที่ตนกำลังต่อท่อน้ำอยู่ ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน ข้างหน้าที่พัก ตนจึงได้วิ่งออกมาดู จึงเห็นทั้ง 2 กลุ่มกำลังตีกันชุลมุนไปหมด ซึ่งตนก็ไม่เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฟัน เพราะจุดที่เกิดเหตุมืดมาก ซึ่งต่อมากลุ่มนายขวัญชัยฯ (กลุ่มผู้ก่อเหตุ) ก็ได้ถอยกลับเข้าที่พักไปก็ได้พบผู้หญิงได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่แขน 1 คน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทราบต่อมาว่าเป็นแฟนของนายเกษมฯ ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคน แต่ตนก็เพิ่งทราบจากผู้สื่อข่าวว่านายเกษมฯ ที่วิ่งหนีไปก็ถูกฟันด้วยเหมือนกัน ซึ่งในแคมป์คนงานแห่งนี้มีคนงานมาจากหลายที่ซึ่งไม่รู้จักกัน ซึ่งผู้สื่อข่าวเองก็พากัน งง ไปหมด เพราะเวลาสัมภาษณ์เหตุการณ์ทุกคนที่ให้สัมภาษณ์ นั้นไม่สามรถระบุถึงตัวตนใครได้เลย และแถมทั้งหมดยังอยู่ในอาการมึนเมา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก จะเชิญทุกคนไปสอบปากคำอีกครั้ง โดยต้องรอให้ผู้บาดเจ็บพร้อมก่อน รวมถึงกลุ่มคนก่อเหตุทั้งหมดยังคงอยู่ในอาการมึนเมายังไม่สามารถพูดคุยจับใจความอะไรได้มาก และต่างฝ่ายต่างโยนความผิดให้กัน ซึ่งยังคงสับสนไปหมด ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพหน้า และบัตรประชาชนของทุกคนในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด และได้ให้ทุกคนกลับเข้าที่พักของตนเองโดยห้ามออกมายุ่งวุ้นวายกันอีก และหลังจากนี้จะสืบหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีต่อไป.
