หนุ่มวัย 25 ปี คลั่งหลังจากถูกส่งกลับจากอิสราเอลในช่วงที่เกิดสงคราม พูดจาไม่รู้เรื่องวิ่งหนีญาติที่มารอรับไม่ยอมกลับกับญาติ จนเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาพาจะพาไปส่งถึงบ้านจึงยอมขึ้นรถไปพร้อมกับญาติ
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สนามบินว่า ชายคลุ้มคลั่งเดินเอะอะพูดจาไม่รู่เรื่องที่บริเวณทางออกประตูที่ 4 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินเข้าตรวจสอบ
ที่บริเวณถนนหน้าอาคารผู้โดยสาร พบชายอายุ ประมาณ 25 ปี สวมเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ เดินวนไปมาพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยมีญาติ ๆ คอยเดินตามและพยายามพูดคุย เกลี้ยกล่อมให้กลับบ้าน ตาชายคนดังกล่าวพยายามเดินหนีออกไปทางถนนหน้าอาคารจอดรถยนต์ และเดินออกไปด้านนอกหน้าหอปฏิบัติ การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีเจ้าหน้าที่และอาสามูลนิธิเดินตามไป จนชายดังกล่าวเดินไปถึงหน้าอาคารการบิน ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ชายดังกล่าวได้นั่งลงพร้อมก้มลงกราบ สักพักก็ออกเดินต่อไป ด้วยอาการเริ่มลดลง จนอาสามูลนิธิและญาติได้ชักชวนชายคนดังกล่าวมานั่งคุยกันที่ริมถนน โดยชายดังกล่าวยอมเดินตามแต่โดยดี
จาการสอบถามทราบว่าชายคนดังกล่าวเดินทางมาจาก จ.เชียงราย เป็นชาวม้ง เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิซึ่งสามารถพูดภาษาม้งได้พูดคุย จึงทราบว่าชายคนดังกล่าวต้องการที่จะกลับไปที่จังหวัดเชียงราย อาสามูลนิธิจึงรับปากว่าจะไปส่งให้พร้อมญาติ ๆ ชายคนดังกล่าวจึงยอมขึ้นรถพร้อมด้วยญาติเพื่อให้อาสามูลนิธิพาไปส่งที่จังหวัดเชียงราย
น.ส. เอ (นามสมมุติ) มารดาของชายคนดังกล่าว เล่าว่า ลูกชายชื่อ นายสหัสชัย หมั่นพัฒนาการ อายุ 25 ปี เป็นชาวม้ง จ.เชียงราย ได้เดินทางไปทำงานเป็นเกษตรกรที่ ประเทศ อิสราเอลได้ ประมาณ 3 เดือน จนที่ประเทศอิสราเอลเกิดสงคราม ลูกชายตนทำงานอยู่ใกล้ได้ยินเสียงระเบิดทุกวันจนเกิดอาการเครียด โดยก่อนหน้านี้ลูกชายตนเคยเป็นโรคซึมเศร้า แต่รักษาจนหายมานานกว่า 1 ปีแล้ว จึงเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศและไปพบกับเหตุการณ์ดังกล่าวจนอาการกำเริบ จนเกิดอาการคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง นายจ้างจึงส่งตัวกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย
