ฉะเชิงเทรา – เช็คแถวตรวจความพร้อม ส.ส.ฉะเชิงเทรา ใครไปใครอยู่ได้ในยุคต่อไป จากอดีตที่ผิดพลาดของเจ้าถิ่นคนตระกูลดังจอมเก๋า สู่ศึกการทวงคืนพื้นที่อันดุดันของคนบ้านใหญ่ ที่จ่อจ้องรอเวลาลงสนามอยู่หลายซุ้มหลายหลัง แม้บางพื้นที่จะยากเย็นแต่ก็อาจได้ตำแหน่งกลับคืนมาครองใหม่อีกครั้ง หากทุ่มเทสุดกำลังพร้อมแผ่บารมีให้ทั่วถึงบนความไม่ประมาท จากบทเรียนเป็นครูสอนจุดบอดที่เคยได้รับ ก็อาจหวนคืนสู่ถนนการเมืองได้อีกครา
ว่ากันด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ที่แจ้งเกิดเดินเข้าสู่สภาได้ในตำแหน่ง ส.ส.ฉะเชิงเทรา ไปครองอย่างพลิกความคาดหมาย จากผลการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา เดิมทีสังกัดพรรคในการแจ้งเกิดนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของพรรคใหม่ป้ายแดง “อนาคตใหม่” เมื่อครั้งนั้น แต่หลังจากพรรคเก่าถูกยุบไปได้เปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่ไปสู่อ้อมกอดของพรรคภูมิใจไทย โดยที่อนาคตต่อไปข้างหน้านั้นคาดว่าจะยังคงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตพื้นที่เลือกตั้งเดิม ภายใต้ชื่อ “พรรคภูมิใจไทย”
ขณะที่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นได้เคยมีอดีต ส.ส.เก่าและคนตระกูลดัง ครอบครองยึดพื้นที่มายาวนานนับแต่เก่าก่อน ที่จ่อจะกลับมาลงสนามทวงคืนพื้นที่ดังเดิมทั้ง ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต สว.โหร และ ส.ส. 1 สมัย ที่การลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งล่าสุด ภายใต้เงาไม้ใหญ่พรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้ายกลับผิดพลาดพลิกล็อคจากการเลือกคนทำคะแนนที่ไม่ตรงเป้าหมาย และความประมาทต่อคู่แข่งจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนเสียทีให้แก่คนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่ได้รับกระแสหนุนอย่างร้อนแรงจากพรรคเดิมสังกัดเก่า ที่มีพลังอันเป็นที่นิยมของคนบนโลกโซเชียลไปอย่างง่ายดาย
โดยที่คู่แข่งคนสำคัญอย่าง นางฐิติมา ฉายแสง อดีต ส.ส.เจ้าถิ่นก่อนหน้า 2 สมัย คนตระกูลดังบ้านใหญ่ “ฉายแสง” ที่พลาดโอกาสจากการเข้าสังกัดพรรคที่ถูกยุบลงกลางคันในเวลานั้น ยังคงพร้อมที่จะลงพื้นที่ขอมาทวงตำแหน่งคืนในนาม “พรรคเพื่อไทย” แม้จะมีสมาชิกพรรคเดียวกันหน้าใหม่ กำลังขอแบ่งแข่งบารมีมาลงพื้นที่แทน แต่เชื่อว่าอดีต ส.ส.หญิงผู้นี้จะได้รับคัดเลือกให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อชิงเอาตำแหน่ง ส.ส.เก่ากลับคืนมาในครั้งต่อไป
แม้ ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ จะเคยมีพลังเบียดแทรกเข้ามานั่งเป็นเจ้าถิ่นหน้าใหม่มาได้ 1 สมัยแล้วก็ตาม แค่ด้วยความสูงวัยในปีที่ 81 เต็มแล้วนั้น อาจจะเป็นปัญหาทางด้านสุขภาพต่อการทำงานและการสร้างฐานคะแนน ท่ามกลางกระแสของการเปิดตัวอย่างคึกคักของเหล่าบรรดาผู้สมัครหน้าใหม่ ที่ออกตัวเปิดหน้ากันเข้ามาจนล้นพื้นที่
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่มี ส.ส.หน้าใหม่ อย่างนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งมาครองอย่างสมบูรณ์แบบเพียง 1 สมัย และผ่านสนามการเลือกตั้งแบบโมฆะ (2 ก.พ.57) มาแล้ว 1 ครั้ง จากบารมีพ่อ “นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์” นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ผู้กว้างไกลในการรักษาฐานคะแนนไปจนทั่วทั้งจังหวัด ที่ยังได้พยายามปลุกปั้นนำคนหน้าใหม่มาเตรียมจ่อรอไว้ลงสมัครแข่งขันในทุกเขตพื้นที่ ทั้งยังมีแนวโน้มของการปรับเปลี่ยนหวังให้บุตรชายได้ก้าวขึ้นไปสู่ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อในอนาคตของพรรคอีกด้วย
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 นายสุชาติ ตันเจริญ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ เจ้าพ่อแห่งวงการเมืองแปดริ้วผู้เป็นอมตะในสนามเลือกตั้งมาอย่างยาวนานนับแต่ปี 2529 โดยเป็น ส.ส.เขตพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องถึง 9 สมัย และยังมีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 อีกด้วย จึงยากที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นจะเบียดแทรกแย่งพื้นที่ไปได้ แม้จะมีการระดมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จากผู้มีบารมี และว่าที่นักการเมืองหน้าใหม่มาอย่างหลากหลายในช่วงก่อนหน้าแล้วก็ตาม แต่การสร้างบารมีในพื้นที่แห่งนี้ในระยะสั้นนั้น ยังไม่อาจที่จะล้มล้างฐานกำลังของคนเก่าดั้งเดิมให้ล้มลงได้โดยง่าย
ขณะที่พื้นที่การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 4 นั้นมีนายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ตำแหน่ง ส.ส.หลังผ่านการเลือกตั้งครั้งล่าสุดมาแบบไม่น่าเชื่อนั้น ปัจจุบันยังคงสังกัดพรรคที่มีแนวทางการเมืองคงเดิมใน “พรรคก้าวไกล” ที่เชื่อว่าสนามเลือกตั้งในครั้งต่อไปนั้นจะเต็มล้นไปด้วยขวากหนาม ที่ยากลำบากเกินที่จะฝ่าฟันต่อไปได้ ทั้งอดีต ส.ส.เก่า และอดีตรัฐมนตรี (วิทยาศาสตร์) ยุคดั้งเดิม
อย่างนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ว่าที่ผู้สมัครในสังกัดพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมจะกลับมาทวงคืนพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ และ พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา 1 สมัยจากพรรคประชาธิปัตย์ และพลาดโอกาสได้รับตำแหน่ง ส.ส.หลังเปลี่ยนค่ายเข้ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เมื่อสมัยที่ผ่านมา ยังคงวนเวียนที่จะขอคืนพื้นที่ ตามฐานคะแนนที่เคยได้รับจากการเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.มาแล้วหนึ่งสมัยด้วยเช่นกัน
ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งใหม่ในสนามนี้ จึงถือเป็นสนามแห่งการพิสูจน์ศักดิ์ศรีของแชมป์เก่าดั้งเดิมในตระกูลดังจาก 2 บ้านใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ ท่ามกลางว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หน้าใหม่ ที่รายล้อมขอแจ้งเกิดและเปิดตัวกันออกมาให้เห็นอยู่เป็นระยะ จึงถือเป็นสนามแห่งการสู้ศึกวัดกำลังกันของผู้มีบารมีเก่าในระดับตำนาน และผู้กำลังสร้างบารมีใหม่ในระดับล่าง ที่พร้อมขยับจากคนการเมืองท้องถิ่นขึ้นมาสู่สนามแห่งการแข่งขันเป็นว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่ในระดับชาติต่อไป จากการเลือกตั้งที่คาดว่ากำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนัก
