โรงแรมขนาดเล็กภูเก็ต รวมตัวนับ 100 หลังเดือดร้อน ไม่สามารถเปิดกิจการได้ และขอยื่น 6 ข้อเรียกร้อง ขอให้จังหวัดช่วยด่วน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ นายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต พร้อมสมาชิกฯและผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก รวมตัวกัน 100 คน เข้ายื่นหนังสือกับทางจังหวัดภูเก็ต เรื่อง ขอผ่อนผันการประกอบกิจการโรงแรมขนาดเล็กจนกว่ากฎกระทรวงฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยมี นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชิญตัวแทนสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต จำนวน 10 คน เข้าประชุมเพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อน ณ ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต
นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ นายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจดแจ้งตามการผ่อนผันของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 6/2562 ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่สามารถดำเนินการ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพอาคารให้ถูกต้องตามกฎหมายได้และไม่มีใบอนุญาตจากนายทะเบียน ตามพระราชบัญญัติโรงแรมปี พ.ศ.2547 มาตรา15 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจโรงแรม เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามบทบัญญัติทั้งทางแพ่งและอาญา และในระหว่างนั้นผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่องจากสถานการณ์วิกฤตของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด จึงขอความช่วยเหลือให้จังหวัดภูเก็ตในฐานะเจ้าของพื้นที่นำเรื่องการขอผ่อนผันข้อกำหนดทางกฎหมายในการประกอบกิจการโรงแรมขนาดเล็ก ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.ขอให้ผ่อนผันให้สามารถประกอบกิจการโรงแรมขนาดเล็กจนกว่าจะมีกฎกระทรวง
ฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้
2. ขอให้เกิด Law Sandbox โดยใช้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง (Phuket Law Model) เพื่อให้เหมาะสมในบริบทของพื้นที่ที่มีความหลากหลายเชิงการท่องเที่ยว
ข่าวน่าสนใจ:
3. ขอให้กิจการโรงแรมเล็กที่จดแจ้งขอผ่อนผันตามประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 6/2562 สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือในโครงการของรัฐเพื่อทุเลาความเดือดร้อนจากวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในทุกโครงการ รวมถึงการเข้าถึงมาตรการทางการเงินจากสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน
4. ขอผ่อนปรนในข้อกฎหมายอื่นที่เป็นอุปสรรคในการขอใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร เพื่อใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม เช่น ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องกำหนดเขตพื้นที่และ มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2560 ยังบังคับให้ยังมีที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของที่ดินที่ขออนุญาต ซึ่งขัดแย้งกับกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 ที่ผ่อนปรนลดพื้นที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละ10
5.ขอให้พิจารณาในเชิงบริบทที่มีลักษณะเฉพาะของจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการประสบปัญหาในข้อกฎหมายที่นำอาคารพาณิชย์ที่ดัดแปลงเป็นโรงแรมในพื้นที่ โครงการจัดสรร ไม่สามารถขอใบอนุญาตโรงแรมได้ เนื่องจากติดข้อกำหนดของ พรบ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เป็นเกาะมืพื้นที่จำกัดและมีราคาสูง ทั้งยังมีการประกาศ
เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ปีพ.ศ.2530ทำให้มีการทำโครงการจัดสรรลักษณะพลาซ่า
อาคารสูงมากกว่า 4 ชั้น เป็นจำนวนมากตั้งแต่ปีพ.ศ.2530 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นโครงการ
จัดสรรที่มีเฉพาะอาคารพาณิชย์เท่านั้น (ไม่มีอาคารประเภทที่อยู่อาศัยอื่น เช่น บ้านเดี่ยวบ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ เป็นต้น) ทุกอาคารล้วนประกอบกิจการเชิงพาณิชย์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยว
6.ขอให้ช่วยผลักดันให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับกิจการที่พักขนาดเล็กที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของการท่องเที่ยวในปัจจุบันที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
จึงขอให้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ที่โรงแรมขนาดเล็กในการนำเสนอปัญหาที่ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กของจังหวัดภูเก็ต ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้สามารถเปิดกิจการเพื่อหารายได้ประคองฐานะภาระหนี้สินกับเจ้าหนี้ สถาบันการเงินไม่ถูกบังคับคดีไม่ถูกบังคับขายหลักประกันในราคาถูกเช่นปัจจุบัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความช่วยเหลือผ่อนปรนในครั้งนี้ สำหรับ สมาชิกของสมาคมมีจำนวน 216 ราย ที่ยื่นหนังสือแก่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 178 ราย
ทางด้าน นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตรับเรื่องความเดือดร้อนทั้ง 6 ข้อ ในการขอให้ผ่อนผันตามมาตรการและคำสั่ง คสช.ในเรื่องการผ่อนปรนขยายระยะเวลา เรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เรื่องโรงแรมขนาดเล็ก ซึ่ง ตนพร้อมด้วย หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ที่ดินจังหวัด, ผู้แทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, จ่าจังหวัด, ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และท้องถิ่นจังหวัด ได้ชี้เแจงประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ที่บัญญัติไว้ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องก่อน เพราะกฎหมายบังคับใช้ทั่วประเทศ จะผ่อนปรนเฉพาะภูเก็ตไม่ได้ ซึ่งทุกคนเข้าใจ
ในเรื่องสถาบันการเงิน ทางจังหวัดจะทำหนังสือประสานไปยังชมรมธนาคารแจ้งให้ทราบว่าผู้ประกอบการช่วงนี้อยู่ระหว่างมีการแก้กฎกระทรวงเพิ่ม ในเรื่องโรงแรม ซึ่งเดิม ผู้ที่มีห้องพัก ไม่เกิน4 ห้องให้พักไม่เกิน 20 คน ไม่ถือว่าเป็นโรงแรมไม่ต้องจดทะเบียนโรงแรม
ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยรับทราบปัญหามีการปรับแก้ จาก 4 ห้องเป็น 10 ห้อง ให้พักได้ถึง 30 คน เป็นความสะดวกกับผู้ประกอบการที่ไม่ต้องจดทะเบียนโรงแรมเพียงแต่ต้องทำอาคาร ให้มั่นคงแข็งให้ถูกต้องตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน
และในส่วนประกาศของกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เดิมให้มีระยะพื้นที่ว่างในอาคาร 30 ตารางเมตร ทางผู้แทนทสจ.แจ้งว่าจะปรับลดหย่อนลงมาตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไม่เกิน10ตาราง เมตร เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการเพราะภูเก็ตพื้นที่แพงและพื้นที่น้อยในอาคารถ้าเว้นว่างไว้ 30 ตารางเมตร เป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้ยาก ทางกรมทรัพยากรฯรับทราบปัญหานี้กำลังยกร่างเพื่อจะแก้พ.ร.บ.ควบคุมอาคารไม่เกิน 10 ตารางเมตร
ทั้ง 6 ประเด็นดังกล่าว ในฐานะผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ทำความเข้าใจกันซึ่งผู้ที่มาเรียกร้องที่มาเสนอมีความเข้าใจ และพึงพอใจ ในฐานะจังหวัดจะรีบรายงานกระทรวงมหาดไทย และในส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการโดยเร็ว รวมทั้งแจ้งชมรมธนาคารให้ทราบในเรื่องความเดือดร้อนสภาพคล่องของผู้ประกอบการจะได้ทราบแนวทางการปฏิบัติของจังหวัดแนวทางการแก้ไขของจังหวัดและส่วนกลางเพื่อจะอนุมัติให้กู้เงินต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: