สระแก้ว – เสนาธิการทหารบกและโฆษกกองทัพบก นำสื่อเยี่ยมชายแดนไทย – กัมพูชา จ.สระแก้ว เห็นข้อเท็จจริง รู้การพัฒนาพื้นที่ ระบุกองกำลังชายแดน พร้อมรักษาอธิปไตย ดูแลประชาชน
พลเอก สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก โฆษกกองทัพบก พร้อมคณะสื่อมวลชนเดินทางลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อดูการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก โดยแนวชายแดนด้านนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังบูรพา ที่ปฏิบัติภารกิจเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน การจัดระเบียบพื้นที่ และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดแนวชายแดน 165 กิโลเมตร ตั้งแต่ อ.ตาพระยา ถึง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งมีหน่วยงานร่วมดูแลพื้นที่ อาทิ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 2, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 111, หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 และ สำนักงานประสานงานชายแดน ไทย – กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 เป็นต้น ด้วยการจัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจ เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ลาดตระเวนร่วม เสริมด้วยการเฝ้าตรวจเพื่อสกัดจับผู้กระทำความผิดในพื้นที่ล่อแหลม และได้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการ แก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และได้ดำเนินการพัฒนาสัมพันธ์กับผู้นำทหารของประเทศเพื่อนบ้าน ในทุกระดับอย่างแน่นแฟ้น และต่อเนื่อง เป็นช่องทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ร่วมกัน
โดยภารกิจหนึ่งในการดูแลพื้นที่ชายแดน คือ การสำรวจสภาพและที่ตั้งหลักเขตแดนร่วมกันระหว่าง ไทย – กัมพูชา ซึ่งปฏิบัติภายใต้บันทึกความเข้าใจ ระหว่างราชอาณาจักรไทย – กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำเขตแดนทางบก ที่ได้จัดทำขึ้นเมื่อปี 2543 หรือ MOU43 ปัจจุบันได้ร่วมกันกำหนดที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ถูกต้อง และยอมรับร่วมกันได้ทั้งสองฝ่าย จำนวน 13 หลักเขต และอยู่ในระหว่างการพิจารณาจำนวน 11 หลักเขต และในบางพื้นที่ยังเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน โดยมีข้อตกลงร่วมกันไว้ว่า ห้ามไม่ให้ฝ่ายใดเข้าไปใช้ประโยชน์หรือทำให้ลักษณะภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไปจนมีผลกระทบต่อการสำรวจ กำหนดแนวเส้นเขตแดน และหากจะดำเนินการใดในพื้นที่ดังกล่าว ต้องประชุมร่วมกัน
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงมิให้มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ทั้งการสกัดกั้นยาเสพติด การหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่มุ่งดำเนินการต่อขบวนการนำพาด้วยมาตรการตรวจค้นและลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลม, สกัดกั้นการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ข้ามแดน ด้วยมาตรการด้านการข่าวและการลาดตระเวน , ป้องกันการลักลอบนำเข้า – ส่งออก สินค้าไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงการช่วยเหลือคนไทยที่โดนหลอกให้ไปทำงานลักษณะเป็น CALL CENTER ที่ต้องใช้การประชาสัมพันธ์ไม่ให้หลงเชื่อกลุ่มขบวนการหลอกลวง
ส่วนภารกิจที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และกับระเบิดที่ตกค้าง เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่การสู้รบในอดีต โดยตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ในปี พ.ศ. 2543 พบพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดใน จ.สระแก้ว จำนวน 219 พื้นที่ ขนาดพื้นที่รวม 181.72 ล้าน ตร.ม ปัจจุบันได้ดำเนินการกวาดล้างและเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับระเบิดไปแล้ว จำนวน 209 พื้นที่ ยังคงเหลือพื้นอันตรายจากทุ่นระเบิด จำนวน 10 พื้นที่ ขนาดพื้นที่รวม 6 ล้าน ตร.ม. เศษ
นอกจากนั้น ในด้านการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนด้านนี้ กองกำลังบูรพาได้ดำเนินโครงการหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดน ไทย – กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว จำนวน 52 หมู่บ้าน โดยได้ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ จ.สระแก้ว เพื่อให้ประชาชนมีที่พักอาศัยและที่ทำกิน สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยตั้งแต่ปี 2521 ถึงปัจจุบันมีประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่า 8,000 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีการใช้พื้นที่ตามวัตถุประสงค์เดิม นอกจากนี้ได้ดำเนิน “โครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน” จากความเห็นชอบร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี ความร่วมมือ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ นำไปสู่ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ปัจจุบันมีหมู่บ้าน ฝั่งไทย 64 หมู่บ้าน ฝั่งกัมพูชา 46 หมู่บ้าน และมีการจัดกิจกรรมร่วมกัน เช่น จัดทำแผนป้องกันภัยและพัฒนาชุมชน และสานสัมพันธ์วัฒนธรรมประเพณี นำมาซึ่งความสงบและมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม กองกำลังบูรพา ถือเป็นกองกำลังป้องกันชายแดนที่เป็นด่านหน้าในการรักษาอธิปไตย ดูแลประชาชนและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งในงานด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจเจ้าหน้าที่ทุกนาย ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน รักษาความมั่นคง ปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติ อย่างเต็มกำลังขีดความสามารถ ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร แห่งกองทัพบก เพื่อดำรงไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดนภาคตะวันออก ให้เป็นที่เชื่อมั่น และเป็นที่ศรัทธา ของประชาชน นำไปสู่ความผาสุกของประเทศชาติ อย่างยั่งยืน สืบไป
—————————
ข้อมูล-ภาพ/เพจกองทัพบก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: