รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต”
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565มุ่งขับเคลื่อนการสร้าง ขีดความสามารถในการแข่งขันและโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล รวมทั้งผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทย เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน
วันนี้ 3 ก.ย. 65 เวลา 15.00 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ในพิธีแต่งงานตาม โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ประจำปี พ.ศ. 2565 ณ บ้านชินประชา “อังม่อเหลา” หลังแรกของจังหวัดภูเก็ต 
โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ต และสื่อมวลชน เข้าร่วม กิจกรรมประกอบด้วย การตั้งขบวนเจ้าบ่าว ณ ลานจอดรถเค พาร์ค ภูเก็ต ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จากนั้นกลองยาวนำขบวนเจ้าบ่าวเดินออกจาก ลานจอดรถเค พาร์ค ถึงบ้านชินประชา ,ประธานจุดธูปเทียนไหว้เทวดาพร้อมกับแขกผู้มีเกียรติและคู่บ่าวสาว ประกอบ พิธีผ่างเต๋ ตามลำดับ อาทิ ยกน้ำชา เรียงลำดับ ความอาวุโส ขั้นตอนการจัดที่นั่ง ผู้ใหญ่ยกน้ำชา วิธีรับยกน้ำชา เป็นต้น เมื่อเสร็จพิธี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรม ผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมถ่ายภาพกับคู่บ่าวสาว
จากนั้น เวลา 16.20 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้นำคณะเข้าร่วมขบวนงานประเพณีวิวาห์บาบ๋าภูเก็ตออกจาก ลานจอดรถ โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต ถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต โดยมีขบวนวงโยธวาทิตโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ นำออกเดินไปตามถนนพังงา ผ่านหน้าธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เลี้ยวขวาเข้าถนนภูเก็ต แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนถลาง เดินไปจนถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
ในเวลา 17.00 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธาน กล่าวเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ประจำปี พ.ศ. 2565 ณ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ว่า “งานส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวันนี้ ซึ่งเป็นการบูรณาการการจัดงานในหลายภาคส่วน ถือเป็นการรวมพลังความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของทุกภาคส่วนที่จะได้นำอัตลักษณ์อันโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมของจังหวัดภูเก็ตไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมประเพณี ศิลปะการแสดง สินค้าทางวัฒนธรรม ความหลายหลากของภูมิปัญญา มาเผยแพร่ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ก่อให้เกิดความเข้าใจ ภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า อันเป็นทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดภูเก็ตที่ได้นำมาพัฒนาและขับเคลื่อน ร่วมกันจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่และประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมที่มุ่งขับเคลื่อนการสร้าง ขีดความสามารถในการแข่งขันและโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล รวมทั้งผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทย เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน โดยขับเคลื่อนงานเทศกาลประเพณีสู่ระดับโลก (Festival) ในปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้คัดเลือกงานเทศกาล/ประเพณี
ที่มีความโดดเด่นในจังหวัดต่างๆ ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายทางวัฒนธรรมและชุมชนจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและยกระดับงานเทศกาลประเพณีของแต่ละท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อให้วัฒนธรรมสร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชน
และประเทศโดยโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็น 1 ใน 16 งานเทศกาล/ประเพณี ที่ได้รับการคัดเลือกในปีนี้ ด้วย
นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต มีบทบาทภารกิจในการส่งเสริมการจัดงานประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม สืบสานภูมิปัญญาของท้องถิ่น ตลอดจนการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่มีความสำคัญของจังหวัดภูเก็ต การจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในระหว่างวันที่ 3 – 4 กันยายน 2565 ถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสานต่อไปจนถึงรุ่นลูกหลาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชนยลวิถีย่านเมืองเก่า “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” ในครั้งนี้ จะสร้างความประทับใจให้แก่ทุกท่านและเป็นหมุดหมายงานเทศกาล/ประเพณีที่สำคัญของกระทรวงวัฒนธรรมต่อไป”
