ปราจีนบุรี – คุณยายวัย 70 ปี ชาวบ้านบ้านวังอ้ายป่อง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี วิ่งหนีช้างป่า หัวใจแทบวาย
เมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 10 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านวังอ้ายป่อง หมู่ที่ 3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่าช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน บุกเข้ามาพังบ้านเรือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง เป็นครั้งที่ 3 ชาวบ้านบางส่วนต้องออกมานอนอยู่ที่วัด เพื่อความปลอดภัย ผู้ใหญ่บ้านและชุด ชรบ.จัดกำลังร่วมกับจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าออกมาเฝ้าระวังช้างป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ภายหลังเจ้าละมุด ช้างป่า เข้าไปพังครัวของชาวบ้านเพื่อหาของกิน เจ้าของบ้านพาลูกชายวิ่งหนีเอาตัวรอด ขณะกำลังวิ่งมาเพื่อทำกับข้าว ต่อมา พบเจ้าละมุดหักไม้ไผ่กินอยู่ข้างบ้าน ประชาชนจึงแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อผลักดันออกจากบ้านประชาชน อึดใจต่อมา เจ้าละมุดพังบ้านคุณยาย เจ้าหน้าที่รีบนำตัวคุณยายวิ่งหนีเจ้าละมุดออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ขนาดที่คุณยายวิ่งออกจากบ้านมาตามถนนคอนกรีต บอกว่า วิ่งหนีช้าง เกิดมาอายุ 70 กว่าปี เพิ่งเคยเห็นช้าง
นางลัดดาวัลย์ บูรณะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363 หมู่ 3 กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่หน้าบ้าน ทันใดนั้นลูกชายบอกว่า แม่ช้างมา ขณะที่ตนเองกำลังนั่งย่างปลาดุกอยู่ในครัว ทันใดนั้น ฝาบ้านพังครืนลงมาหันมาดูอีกที พบว่า ช้างพังฝาในครัวแล้วฉกเอาข้าวสารไปกิน ลูกชายกับสามีพากันวิ่งออกจากบ้านหนีมาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่วิ่งมาอาศัยอยู่บ้านคุณยายละมูล พบกับเจ้าหน้าที่อุทยานเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าบ้านคุณยาย ทันใดนั้นเสียงดังโครมครามทางหลังบ้านของคุณยาย เจ้าหน้าที่จึงร้องตะโกนบอกให้รีบวิ่งออกจากบ้าน เกรงว่า จะได้รับอันตราย จึงพากันพยุงร่างของคุณยายออกจากบ้าน
นางสาวสมฤดี สุบิน ชาวบ้านวังอ้ายป๋อง กล่าวว่า ช่วงเวลา 20.00 น.ได้ยินเสียงเจ้าละมุดอยู่ในสวนหลังบ้าน จึงพากันออกมาดู พบเจ้าละมุดกำลังยืนกินต้นกล้วยอยู่ในสวน จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและจิตอาสาให้มาช่วยผลักดันช้างป่าออกจากสวน เพื่อความปลอดภัย ชาวบ้านอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการช้างออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว และขู่ว่า หากอุทยานแห่งชาติทับลานไม่สามารถจัดการเจ้าละมุด ไม่ให้มาทำลายพืชผลและบ้านเรือนประชาชนได้ ชาวบ้านจะรวมตัวกันขับไล่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะช้างป่าทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว 2 ราย ที่ผ่านมาชาวบ้าน ต.ทุ่งโพธิ์ และแก่งดินสอ ได้รับความเสียหายทางพืชผลการเกษตรรวมถึงบ้านเรือนพังเสียหาย
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
