พระนครศรีอยุธยา-พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ส.ส.อ๊อด”วิทยา บุรณศิริ หัวหอก เพื่อไทย หลังจาก ฟุบขณะนั่งรับประทานอาหารเช้ากับคนสนิทที่บ้าน แพทย์ยื้อชีวิตสุดๆ แต่ไม่เป็นผล เผยเจ้าตัวป่วยมานาน แต่ไม่หาหมด ก่อนเสียชีวิต บ่นเรื่องการระบายน้ำของชลประทาน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 กย นายวิทยา บุรณศิริ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตสสพระนครศรีอยุธยาพรรคเพื่อไทย ได้หมดสติขณะนั่งรับประทานอาหารกับญาติและคนสนิทที่บ้าน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นทางญาติได้นำส่งรพ.บางปะอิน ให้การช่วยเหลือ ทำการปั๊มหัวใจ แต่นายวิทยา ไม่ตอบสนอง จึงได้นำส่งรพ.ธรรมศาสตร์เพื่อช่วยชีวิต แต่ปรากฎว่านายวิทยา ได้เสียชีวิตลง โดยคนสนิทที่ติดตามนายวิทยา บอกว่า ก่อนหน้าเสียชีวิต นายวิทยาไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บป่วย จนกระทั่งนั่งรับประทานข้าวกันอยู่ แล้วฟุบลงไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาการของโรคหัวใจ ซึ่งนายวิทยาเคยบ่นว่า มีอาการแน่น ค้ลายเป็นโรคหัวใจ แต่นายวิทยาไม่ไปพบแพทย์บอกว่าแข็งแรงดี ซึ่งระยะหลังนายวิทยา มีภารกิจนำว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรคเพื่อไทย ไปหาเสียงในพื้นที่อ.บางบาล และพระนครศรีอยุธยา อาจจะทำให้อาการกำเริบจนเสียชีวิตดังกล่าว
นายนัทธี บ่อสุวรรณ อดีตรองผวจ.พระนครศรีอยุธยา คนสนิทและคนที่นายวิทยา บุรณศิริ ผู้เสียชีวิตไว้ใจนั่งรับประทานอาหารเช้าด้วยเกือบทุกวัน เปิดเผยว่า ปกติตนจะเดินทางจากบ้านที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา มารับประทานอาหารเช้ากับนายวิทยา เกือบทุกวัน และทุกวันก็ยังมีประชาชนและคนที่รู้จักคุ้นเคยมาพบกับท่านอยู่เป็นประจำ ส่วนใหญ่ก็มาขอคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ก่อนที่จะเสียชีวิตขณะที่ตนนั่งรับประทานอาหารเช้ากับนายวิทยา ซึ่งมีแกงส้มดอกแค และปลาทอด โดยมีนายเอ็ม และนายโหน่ง คนที่คุ้นเคยกับท่านนั่งรับประทานด้วย นายวิทยา ได้บ่นว่าเป็นห่วงชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากน้ำมีระดับขึ้นสูงอีก ทางชลประทานรายงานว่าจะระบายน้ำ 1,800 ลบ.เมตรต่อวินาที แต่กลับระบายจริง 2 พัน ลบ.เมตร ต่อวินาที ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ทุกคนก้มหน้ารับประทานอาหาร ก็ไม่ได้ยินเสียงท่าน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่านายวิทยา นั่งตะแคงฟุบไปข้างเก้าอี้ ในสภาพหมดสติ ร่างกายอ่อนเปลี้ย ไม่รู้สึกตัว ตนและพรรคพวกเข้าไปช่วยกันเรียกท่านและพยุงตัวให้นั่ง แต่ก็ไม่รู้สึกตัว จึงได้โทรแจ้งรถกู้ชีพ รพ.บางปะอิน แต่เห็นว่าจะมาช้า จึงได้นำขึ้นรถตู้ ขับมาส่งรพ.บางปะอิน ใช้เวลากว่า 15 นาที เมื่อมาถึงรพ. แพทย์และพยาบาลพยายามช่วยกันกระตุ้นหัวใจ และช่วยการหายใจ แต่ดูเหมือนนายวิทยา ไม่ตอบสนอง จึงรีบนำตัวส่งรพ.ธรรมศาสตร์รังสิต แต่ด้วยสภาพร่างกายที่หัวใจหยุดเต้น ทำให้แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชิวิตลงด้วยอาการสงบ ท่ามกลางความเสียใจของทุกคน
นายนัทธี เปิดเผยต่อด้วยว่าปัจจุบันนายวิทยา ยังไม่ได้ตัดสินใจลงสมัตรส.ส.ในครั้งที่จะถึงนี้ แต่เป็นแม่ทัพในการช่วยผู้สมัครภาคกลางของพรรคเพื่อไทย นายวิทยา บอกว่าหากตัวเองได้กลับไปทำหน้าที่ ที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ อยากที่จะพัฒนาท้องถิ่น และการท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้มีความเจริญมากขึ้น อย่างไรก็ตามศพของนายวิทยา จะบำเพ็ญกุศลที่วัดเสนาสนามรามวรวิหาร ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะให้ประชาชนทั่วไปรดน้ำในเวลา 16.00 น.วันที่ 16 ก.ย. และมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.00 น.โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทุกวันเวลา 19.00 น. ยังไม่มีกำหนดการพระราชทานเพลิงศพ
วิทยา บุรณศิริ เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2503 ณ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายวิทูรและนางถาวร บุรณศิริ นายวิทยาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศิลปศาสตร์ จากสถาบันราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และจบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2548 ก่อนที่พรรคจะถูกยุบในปี พ.ศ. 2550 จึงย้ายไปพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และดำรงตำแหน่งเป็นประธานวิปรัฐบาลในสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาพรรคถูกยุบ วิทยาจึงย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย
ต่อมาได้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม และกลุ่มเพื่อนเนวินซึ่งเดิมสังกัดพรรคพลังประชาชน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ทำให้วิทยาดำรงตำแหน่งเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 วิทยาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยในปี พ.ศ. 2554 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
