นครพนม – ยายเด็ก ม. 6 โอดไม่มีเงินจ่ายค่าทำขวัญ หลังโดนแม่เหยื่อเรียก 5 หมื่น ขณะที่ผู้ก่อเหตุรับทำไปเพราะอารมณ์หวงของรักจนขาดสติ
จากกรณีเด็กนักเรียน ม. 6 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในอำเภอศรีสงคราม ก่อเหตุทำร้ายรุ่นน้องชั้น ม. 1 จนบาดเจ็บปากแตกต้องเย็บถึง 5 เข็ม สาเหตุเพียงแค่รุ่นน้องทำลูกตะกร้อกระเด็นโดนรถจักรยานยนต์ ของตนเอง จนนางลัดดา ขันธะเจริญศักดิ์ มารดาของนักเรียนชั้น ม.1 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับเด็กนักเรียน ม. 6 ข้อหาทำร้ายร่างกายเหตุเกิดบริเวณสนามกีฬาของโรงเรียนดังกล่าวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- นักศึกษาปี 3 ม.นครพนม ซิ่งจยย.ชนท้ายกระบะเสียชีวิต ขณะเดินทางไปเรียน
- นครพนม : นักวิ่งกว่า 3,000 คน ร่วมการแข่งขัน ‘นครพนม-คำม่วน มาราธอน ซีซั่น 6’ เชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งโขง ชมสวยที่สุดที่นครพนม
- นครพนม รับลมหนาว ที่ริมโขง สุดชิลล์ ล่องเรือท่องเที่ยวชมสองฝั่ง ไทย - ลาว สบายๆยามเย็น
- นครพนมก้าวสู่ยุคดิจิทัลสุขภาพ! อบจ.นครพนม ผุดโครงการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการแพทย์ทางไกล
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 10 บ้านโพนงาม ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางหอมหวน สมรฤทธิ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นยายของนาย เก่งเจริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ โดยนางหอมหวน เปิดเผยว่า ตนและสามีคือนายแสงทอง สมรฤทธิ์ รับเลี้ยงหลาน ซึ่งเป็นลูกของลูกสาว ที่สามีพาไปทำมาหากินอยู่กรุงเทพ ทิ้งลูกสองคนให้ตาและยายเลี้ยงคือนายเก่ง และน้องอีกคนขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ป. 4 โดยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกสองคนให้เดือนละ สามพันบาท ส่วนสามีของตนก็พิการขาหัก ได้เบี้ยคนชรา 600 บาทและเบี้ยผู้ผู้พิการอีก เดือนละ 600 บาทก็พออาศัยได้เลี้ยงชีพถูไถไปได้ โดยนอกจากหลานสองคนซึ่งเป็นลูกของลูกสาวแล้วยังมีลูกชายอีกหนึ่งคน อาศัยอยู่ด้วยกัน หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกทำร้าย ก็ได้พากันมาหาเพื่อพูดคุยกันบ้างแล้วเกี่ยวกับค่าทำขวัญและค่าอื่น ๆ ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดแทนหลานทุกอย่าง ทำอย่างไรได้เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วหลานของตนผิดที่ไปทำร้ายเขาก็ขอรับผิดทุกอย่าง จะให้กราบขอโทษตนก็พร้อมกราบเพื่อลูกเพื่อหลาน จะให้ทำอย่างไรก็จะยอมทำทุกอย่าง แต่เรื่องเงินเรื่องทองนั้นก็อย่างที่เห็นตนคงไม่มีให้ถ้าจะเรียกร้องกันถึงสี่ห้าหมื่นบาท
ส่วนนายแสงทอง สมรฤทธิ์ ตาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกตินายเก่ง จะเป็นคนขยันทำงานเก็บเงินเก็บทอง ที่ผ่านมาได้หยุดเรียน 1 ปีเพื่อไปทำงานที่กรุงเทพกับพ่อแม่ จนสามารถเก็บเงินได้ 3 หมื่นบาทจึงนำเงินมาดาวน์รถมอเตอร์ไซด์เพื่อขับไปโรงเรียน โดยต้องส่งค่างวดถึง 70 งวดรวมเป็นเงินถึงสองแสนแปดหมื่นบาทโดยต้องจ่ายงวดละ 3 พันกว่าบาท ซึ่งหลานคนนี้จะหวงรถคันนี้มาก ไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย หลังเกิดเหตุตนก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาช่วยหลานก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามบุญตามกรรมและหวังว่าคงจะสามารถพูดคุยตกลงกันได้
ด้านนายเก่งเจริญ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนนั่งเรียนหนังสืออยู่ข้างใน ก็ได้ยินเสียงครูร้องให้ตนไปดูรถมอเตอร์ไซด์ของตน ตนก็เดินออกไปดูก็เห็นน้องเล่นตะกร้ออยู่ใกล้ ๆ ตรงรถจอด และรับพลาดหลุดมือตะกร้อกระดอนไปโดนล้อ ตนก็ตั้งใจว่าจะไปย้ายรถออกไปจอดที่อื่นแต่น้องเขากลับจับลูกตะกร้อโยนใส่เฟรมรถ ตนจึงเกิดอารมณ์โมโหขาดสติเลยลงมือ ทำร้ายน้องเขา ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดทุกอย่าง และขอโทษน้องและครอบครัวน้องด้วยที่ทำไปเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบขาดสติ ซึ่งตนจะขอจดจำไว้เป็นบทเรียนต่อไป โดยจะมีการนัดหมายเจรจาตกลงกันที่สถานีตำรวจในวันพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: