สงขลา-สะเดา กำนันตำบลน้ำน้อย พร้อมลูกบ้าน 700 ชีวิต เปิดโมเดลทวงสิทธิ์เงินสัจจะวันละ 1 บาท หลังพบยอดเงินกว่า 7 ล้านบาท เหลือเพียง 8 พันบาท ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ลั่นต้องรับผิดชอบพร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด
จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านหมู่ 1- 10 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่ามีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นตัวแทน มาจากภาครัฐระดับจังหวัดกับชาวบ้าน ว่า ได้มีการขออนุญาตเปิด สมาคมสวัสดิการภาคประชาชน พร้อมมีการเปิดโครงการออมเงินในชื่อโครงการ สัจจะวันละ 1 บาท
เพื่อทำกองทุนสวัสดิการชุมชน โดยอ้างว่าหากชาวบ้านพื้นที่ตำบลใดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฝากเงิน จะได้รับผลตอบแทนอาทิ ได้ค่าจัดงานทำศพหากกรณีผู้ฝากเสียชีวิต เบิกค่ารักษาพยาบาลได้หากกรณีผู้ฝากเข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล และสามารถเบิกถอนได้ตลอดเวลาเป็นต้น
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา"สุพิศฯ"พร้อมลุยหาเสียงชิงนายก อบจ.สงขลา ยันลาออกอธิบดีกรมฝนหลวงชอบด้วยกฎหมาย
- ตรัง ร้านอาหารผวา!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ป่วน อ้างสั่งอาหารหรู "พระกระโดดกำแพง" หลอกร้านดังเกือบเสียเงินแสน
- พรรคเพื่อไทย จัดทีม “ฮักนครพนม” ลง นายก อบจ. - ส.อบจ.นครพนม
- ชาวบ้านห้วยแถลงเดือดบุกร้องเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา หลังคืนตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทั้งที่ยังมีคดียักยอกเงินวัดเบิกเข้าบัญชีส่วนตัว
หลังมีชาวบ้านจำนวนมากหลงเชื่อและมีการลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการฝากเงินกับสมาคมสวัสดิการภาคประชาชน ปรากฎว่าทางสมาคมสวัสดิการฯ ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กล่าวไว้แต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านกว่า 200 คน ตั้งแต่หมู่ 1-10 ในพื้นที่ ต.น้ำน้อย ที่หลงเชื่อ ได้รับความเสียหายต้องสูญเงินเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดในวันที่ 23 ก.ย.65 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดเวทีประชุมสรุปความเสียหาย ณ ศาลาอเนกประสงค์หมู่ 4 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ชาวบ้านทั้ง 10 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหายจากกองทุนสัจจะวันละ 1 บาท โดยมี นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เป็นประธานรับเรื่อง พร้อมด้วย นายพันธกานต์ รัชณรงค์ ปลัดอำเภอหาดใหญ่ นายชัช เส็งนนท์ กำนัน ต.น้ำน้อย และอดีตผู้ใหญ่บ้าน ประธานกรรมการกองทุนสัจจะวันละ 1 บาท ต.น้ำน้อย พร้อมชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายหลังมีการสรุป ประมาณ 700 ราย
ซึ่งประธานกองทุนสัจจะวันละ 1 บาท ของ ต.น้ำน้อย พร้อมด้วยเลขากองทุนสัจจะวันละ 1 บาท จังหวัดสงขลา ได้ทำการชี้แจง โดยชาวบ้านได้ มีการซักถามเงินเก็บสะสมทั้งหมด จำนวนกว่า 7 ล้านบาท ว่าทำไมยอดเหลือแค่ 8 พันบาท ซึ่งทำให้ประธานกรรมการกองทุนสัจจะวันละ 1 บาท ถึงกับตอบคำถามไม่ได้
ต่อมา นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ได้มีการปิดประชุมพร้อมให้โอกาสกลุ่มกองทุนสัจจะวันละ 1 บาททั้งหมด 71 คน สรุปอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค.65 พร้อมชดใช้เงินคืนให้กับชาวบ้านทั้งหมด 700 คน หากไม่มีเงินคืนก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด โดยมอบหมายให้ปลัดอำเภอหาดใหญ่และกำนัน ต.น้ำน้อย พาชาวบ้านทั้ง 700 เข้าราย แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา บอกว่า หลังมีการประชุม ก็ได้ดำเนินการให้ทางกรรมการบริหารกองทุน ไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น สมาชิกมีความประสงค์จะลาออกแต่ละท่านจะได้รับเงินคืนเท่าไร เพื่อมากำหนดแนวทางการรับผิดชอบ และใครบ้างที่จะต้องรับผิดชอบเงินดังกล่าว ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค. 65
ส่วนเรื่องความเสียหายนั้นมีหลายส่วนหลักๆก็คือ สมาชิกมีการทยอยออกกันเป็นจำนวนมาก ทำให้สภาพคล่องของการเงินมันหายไป ตรงนี้น่าจะเป็นประเด็นหลัก ส่วนวัตถุประสงค์ของกองทุนแน่นอนว่ามีประโยชน์ แต่รายละเอียดการบริหารจัดการต่างๆ สมาชิกต้องมีความเข้าใจในการเป็นสมาชิกด้วย
ทางด้าน นายพันธกานต์ รัชณรงค์ ปลัดอำเภอหาดใหญ่ บอกว่า ตามที่ทางผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม ได้แจ้งให้ทางชาวบ้านทราบแล้วว่า เงินทุกบาทของชาวบ้านที่เก็บสะสมกันมา และมาเกิดปัญหาในเรื่องดังกล่าวจะต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งได้แนะนำกับชาวบ้านแล้วว่าถ้ามีความกังวลใจ หรือ มีสิ่งใดก็แล้วแต่ หรือเห็นว่าเงินของตัวเองที่มอบหมายให้คณะบุคคลได้ดูแล และดำเนินการไม่ตรงตามวัตถุประสงค์
ก็ได้แนะนำให้ชาวบ้านไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เป็นสิ่งหนึ่งให้ชาวบ้านมีความหวังได้ว่าเงินดังกล่าว ที่สะสมกันมาต้องมีคนรับผิดชอบ ส่วนตำบลอื่นๆที่ได้รับความเสียหายนั้น ที่ได้รับรายงานก็มี ต.ข้างเคียง ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานได้รับความเสียหายลักษณะเหมือนตำบลน้ำน้อย ส่วนพื้นที่ตำบลน้ำน้อย อ.หาดใหญ่ วันนี้ถือว่าเป็นเคสแรกๆที่กองทุนดังกล่าว มีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านได้มีการรวมตัวกันร้องเรียน
ส่วนนายชัช เส็งนนท์ กำนัน ต.น้ำน้อย บอกว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้เพื่อดำเนินการทวงสิทธิ์ให้กับชาวบ้านและจะมีการนัดประชุมสรุปอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค. และในวันนี้ก็ผ่านไปด้วยดี ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบเงินชาวบ้านทั้งหมด แต่ถ้ากลุ่มกองทุนจะเดินหน้าต่อก็ต้องปรับปรุงใหม่ แต่ตอนนี้จากการสอบถามชาวบ้านทุกคนอยากจะถอนเงินทั้งหมดเพราะไม่มีใครเชื่อใจกลุ่มกองทุนนี้อีกแล้ว
นางสาวจุฑารัตน์ พุทธนุกูล อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ต.น้ำน้อย เปิดเผยว่า เงินส่วนหนึ่ง ที่ตนจะได้รับเพราะเราจ่ายมาเกือบ 15 ปี และเราก็ไม่เคยได้ใช้สิทธิ์ตรงนี้ของตนเลย เมื่อตนมาครั้งนี้แค่ถามคณะกรรมการว่าคุณจะชดใช้ยังไง หรือ จะหาทางออกยังไง เมื่อได้คำตอบตนก็อุ่นใจนิดนึง แต่รอวันที่ 20 ต.ค.นี้ ว่าเค้าจะเอายังไง ที่ปลัดฯบอกว่า คณะกรรมการต้องสรุปให้ได้ เพราะชาวบ้าน 700 กว่าราย ที่เสียสิทธิ์เค้าก็ต้องการสิทธิ์นั้น ชาวบ้านอุตส่าห์เก็บออมวันละ 1 บาท อาจจะดูว่าไม่มีค่าสำหรับคนที่มี แต่สำหรับคนที่ไม่มีมันก็มีค่า และวันหนึ่ง สวัสดิการชาวบ้านที่จะได้รับมันควรเป็นสิทธิ์ของชาวบ้านไหม ที่ชาวบ้านควรจะได้รับสิ่งนั้น แต่ปัจจุบันชาวบ้านไม่ได้รับสิทธิ์
ทำไมเมื่อเกิดปัญหาทำไมกรรมการฯ ถึงไม่แจ้ง สมาชิก หรือลูกทีม ว่าไปบอกสมาชิกที่คุณดูแลอยู่ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น เพราะจากการดูข้อมูล ประธานแจ้งให้ทราบว่าตอนปี 2564 สมาชิกได้ลาออกไป 1 พันกว่าคน ซึ่งส่วนนั้นเค้ารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทำไม ณ ปัจจุบัน เดือน ก.ค.ได้ถามคนที่มาเก็บเงิน ทำไมไม่เก็บเงินเกิดอะไรขึ้นเพราะตนจ่ายมาทุกเดือนๆ คนที่มาเก็บเงินได้บอกว่า สงสัยกองทุนจะล้ม นั่นคือจุดที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ หลังจากเกิดปัญหาตรงนั้นเกิดขึ้นแล้ว
ส่วนความเสียหายของตนตกอยู่ที่เล่มละ 5 พันกว่าบาท มีทั้งหมด 11 เล่ม ที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้สิทธิ์ เพราะตนตั้งใจจะใช้สิทธิ์ตอนที่ตนเสียชีวิตแล้ว คนข้างหลังจะได้ใช้เงินส่วนนี้เพื่อที่จะจัดงานศพ หลังจากนี้หากทางคณะกรรมการกองทุนไม่มีเงินมาใช้คืน ตนจะขอใช้สิทธิ์ของตนในทางกฎหมาย และในวันนี้ตนภูมิใจกำนัน ต.น้ำน้อย ภูมิใจในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำ ผู้นำชุมชน ซึ่งถือว่ากำนันเป็นพ่อของ ต.น้ำน้อย ที่ท่านเห็นลูกบ้านของท่านกำลังเดือดร้อน ท่านได้ออกมาทวงสิทธิ์ให้กับลูกบ้านของท่านเรารู้สึกภูมิใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: