กรุงเทพฯ – กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ประชาชนทุกภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 28 กันยายน-1 ตุลาคมนี้ พร้อมตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ ‘พายุไต้ฝุ่นโนรู’ คาด อ่อนกำลังเป็นโซนร้อนก่อนเข้าสู่ไทย เช้ามืดวันที่ 29 ก.ย.
วันที่ 26 กันยายน 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิด ‘ศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่นโนรู (NORU)’ เพื่อติดตาม ประเมิน และรายงานสถานการณ์พายุ ร่วมกับ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภูมิภาค ทั้ง 5 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จังหวัดขอนแก่น, ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จังหวัดอุบลราชธานี, ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดสงขลา และศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการบริหารจัดการภัย เพื่อรายงานสภาพอากาศในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ และเตรียมพร้อมรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที
นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า การทำงานของศูนย์อำนวยการฯ จะมีการประชุมทางไกลกับสถานีอุตุนิยมวิทยา ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หรือบริเวณที่พายุจะเคลื่อนผ่าน จะร่วมกันประเมินสถานการณ์ของพายุ และหากมีความรุนแรงจะมีการสั่งการให้ตรวจวัดสภาพอากาศและปริมาณฝนให้ถี่ขึ้นในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ข้อมูลช่วยในการประเมินสถานการณ์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นด้าน ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 28 กันยายน 2565 และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงเช้ามืดของวันที่ 29 ก.ย. ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ช่วงวันที่ 28 กันยายน-1 ตุลาคม 2565 ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตราย จากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 กันยายน-1 ตุลาคม 2565
ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูล ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: