ฉะเชิงเทรา – พื้นที่รับน้ำ อ่วมอีกหลังเอ่อท่วมสูงมากกว่าเดิมใน 3 ตำบล เลียบแนวชายคลองระบายน้ำจาก กทม. ทั้งคลองพระองค์ไชยานุชิต และคลองประเวศบุรีรมย์ ทำท้องถนนหลายสายผิวการจราจรถูกน้ำท่วมขังกัดเซาะเป็นหลุมบ่อกว้าง บางจุดมีหลุมลึกซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ ชาวบ้านสัญจรผ่านยากลำบาก ขณะบ้านเรือนใกล้กับแนวคลองรับน้ำ มีน้ำไหลล้นออกมาท่วมขังเกือบทั่วทุกหลังคาเรือนเป็นวงกว้าง
วันที่ 26 ก.ย.65 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ ต.คลองหลวงแพ่ง ต.คลองอุดมชลจร และ ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้กับแนวคลองรับการระบายน้ำทิ้งออกมาจากในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ได้มีน้ำไหลล้นออกมาท่วมขังตามบ้านเรือนของประชาชน และท่วมสูงอยู่ตามท้องถนนเป็นวงกว้าง โดยมีระดับน้ำท่วมสูงมากถึง 40 ซม. โดยเฉพาะภายในบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่เป็นบ้านพื้นต่ำชั้นเดียวนั้น มีน้ำไหลเข้าไปขังอยู่ถึงภายในตัวบ้าน
ขณะที่บนถนนหลายสายที่ถูกน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์แล้วนั้น ได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลผ่านกัดเซาะ จนเกิดการชำรุดเสียหายกลายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ และบางจุดมีหลุ่มลึกมากซ่อนอยู่ที่ใต้ผิวน้ำ จนทำให้ผู้ใช้เส้นทางผ่านที่ใช้ยานพาหนะไม่สูงมากนัก ไม่สามารถขับผ่านเส้นทางได้ หากไม่ชำนาญเส้นทางในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะเส้นทางที่เชื่อมมาจากซอยวัดไชยธาราประชาบำรุง มายังหน้าวัดสุทธาวาสนั้น มีระดับน้ำท่วมขังค่อนข้างสูงมาก และยังมีหลุมลึกซ่อนอยู่ที่ใต้ผิวน้ำ
นอกจากนี้ยังมีจุดที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานานจนพื้นถนนได้รับความเสียหายค่อนข้างมากอีกหลายเส้นทาง เช่น ถนนทางหลวงชนบทสาย ฉช.3028 ซึ่งเป็นถนนเลียบชายคลองพระองค์ไชยานุชิต ที่เชื่อมมาจากถนนสาย ฉช.3001 ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช บริเวณสถานีอนามัย (รพ.สต.) เปร็ง ในเขต ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มายังถนนสาย 304 สุวินทวงศ์ (วัดคลองเจ้า) ใน ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา นั้น
มีน้ำท่วมขังสูงมานานที่บริเวณเส้นทางอ้อมสะพานดำ จุดกึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟคลองหลวงแพ่ง และสถานีคลองอุดมชลจร จนทำให้พื้นผิวการจราจรชำรุดเสียหายมีหลุมบ่อขนาดใหญ่อยู่กลางท้องถนนในหลายจุด ขณะที่ภายในบริเวณบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับแนวชายคลองเกือบตลอดสาย ได้มีน้ำไหลเข้าไปท่วมอยู่ตามพื้นบ้านชั้นเดียว และที่ใต้ถุนบ้านของบ้านเรือนประชาชนที่มีลักษณะยกพื้นสูง โดยชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่าน้ำในคลองได้ล้นออกมาท่วมขังในพื้นที่บริเวณนี้มานานถึงกว่า 1 เดือนแล้ว
และบางจุดชาวบ้านต้องใช้เรือแจวในการสัญจรบนท้องถนน และยังมีบางจุดชาวบ้านได้ทำการปักหลักไม้และขึงเชือกเพื่อบอกแนวขอบถนนให้แก่ผู้สัญจรทราบ เนื่องจากบนท้องถนนมีน้ำท่วมขังสูงจนไม่สามารถมองเห็นแนวขอบของถนนได้ พร้อมกับยังได้มีการทำสัญลักษณ์ด้วยการปักไม้และนำถุงพลาสติกหรือกระสอบอาหารสัตว์ มาทำเป็นเครื่องหมายบอกถึงจุดอันตรายให้แก่ผู้ที่ผ่านเส้นทางทราบ
