ฉะเชิงเทรา – สาวร้อง ถูกสามีโหดทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงใช้เท้าเหยียบใบหน้า กระทืบอกชกหน้าน่วม เย็บ 6 เข็ม เข้าแจ้งความร้องทุกข์บ่ายสามโมงสอบสวนจบกว่าตีหนึ่ง ก่อนเรียกตำรวจให้ช่วยมายึดอาวุธปืนของผู้ก่อเหตุจากภายในบ้านหวั่นถูกใช้เป็นอาวุธทำร้ายอีก กลับถูกสั่งห้ามถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานอ้างแค่เรื่องในครอบครัว
วันที่ 1 ธ.ค.61 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.นิ่ม (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เจ้าของธุรกิจร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และยังเป็นว่าที่ผู้เตรียมลงสมัคร ส.ส.เขต 2 จากพรรคการเมืองหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทราด้วยว่า ถูกสามี คือ นายนิรุตต์ ธรรมกูล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/19 ม.4 ต.หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว จ.พิษณุโลก
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เพิ่งคบหาอยู่กินด้วยกันมาได้เพียงประมาณ 10 เดือน ทำร้ายร่างกายตบตีจนล้มลง ก่อนเหยียบที่อกและใช้เท้ากระทืบที่ใบหน้า จิกผมทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลฟกช้ำไปทั่วร่างกายและมีอาการปูดบวมจนต้องเย็บบาดแผลที่ใบหน้าบริเวณเหนือคิ้วด้านซ้ายถึง 6 เข็ม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.24 น.วานนี้ (30 พ.ย.61) ที่บริเวณด้านหน้าร้าน
จึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ในเวลา 15.00 น. แต่กระบวนการสอบสวนและการรับแจ้งความร้องทุกข์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ล่าช้ามาก โดยกว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จจนสามารถเดินทางกลับบ้านได้นั้น ใช้เวลานั่งรอและผ่านเลยไปจนถึงเวลา 01.00 น.ของวันนี้
ต่อมาวันนี้ เวลา 15.00 น. ตนได้เดินทางไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจยึดอาวุธปืนของอดีตสามี ที่อยู่ภายในบ้านของตนเองออกไป เพราะเกรงว่าจะถูกอดีตสามีกลับเข้ามาและนำมาใช้ทำร้ายจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อีก
จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนอกเครื่องแบบจำนวน 2 นาย นำโดย พ.ต.ท.ชัยรัชช์กิตติ์ ชัยปฏิวัติ สารวัตรสืบสวน สภ.บางคล้า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เวรอำนวยการ เดินทางเข้ามาตรวจยึดอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดกระบอกดังกล่าวไป โดยคนในครอบครัวตนเองต้องการที่จะถ่ายคลิปภาพเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานว่าได้มีตำรวจเข้ามานำอาวุธปืนออกจากบ้านไปแล้ว
แต่กลับถูก พ.ต.ท.ชัยรัชช์กิตติ์ ต่อว่า ทั้งยังสั่งห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพด้วย โดยอ้างว่าเป็นเพียงแค่คดีเล็กน้อยภายในครอบครัว ทั้งที่คดีดังกล่าวเป็นเหตุความรุนแรงในครอบครัว ที่เกิดขึ้นต่อสตรีหรือเด็ก อีกทั้งตนเองในฐานะเจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหาย ตลอดจนเป็นผู้ร้องทุกข์เชิญให้สื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวให้
“ตนคิดว่าเป็นสิทธิ์ที่ตนเองนั้นสามารถที่จะกระทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้างคล้า กลับมีพฤติกรรมและการปฏิบัติต่อประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์เพราะถูกทำร้ายร่างกายอย่างล่าช้าผิดปกติ ทำให้ตนเองรู้สึกว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ” น.ส.นิ่ม กล่าว
ต่อมาในเวลา 16.20 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ พ.ต.ท.เดชฤทธิ์ ศรีคชา สารวัตรสอบสวนเวรประจำวันนี้ ที่ สภ.บางคล้า ได้รับคำชี้แจงว่า เหตุที่การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเวรเมื่อวานนี้ล่าช้านั้น เนื่องจากมีคดีเกิดขึ้นหลายคดีพร้อมกันในพื้นที่ และ สภ.บางคล้ามีพนักงานสอบสวนเข้าเวรบริการประชาชนแค่เพียง 1 นายเท่านั้น
ส่วนเรื่องอาวุธปืนหลังจากที่ได้ลงบันทึกการตรวจยึด และลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว ทางเจ้าของบ้านสามารถที่จะขอถ่ายสำเนาการลงบันทึกประจำวันจากการตรวจยึดอาวุธปืนเอาไว้ได้อยู่แล้ว
และในเวลา 16.45 น. ร.ต.อ.ประมวล พูลศิลป์ รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีนี้ว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายแล้ว ซึ่งยังต้องรอใบรับรองผลการตรวจจากทางแพทย์ และรอการนัดสอบปากคำจากผู้เสียหาย ตลอดจนพยานอีก 2 ปากที่อยู่ในเหตุการณ์
ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นทราบว่าได้เข้ามาขนของออกจากบ้านไปแล้ว ซึ่งก็จะออกหมายเรียกตัวให้มาสอบปากคำ ซึ่งหากออกหมายเรียกไปแล้วไม่มาตามนัด ก็จะออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุในข้อกล่าวหาอะไรบ้างนั้น ยังต้องรอผลจากใบรับรองการตรวจของแพทย์ก่อน
“สำหรับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นเท่าที่เห็นนั้น พบว่ามีบาดแผลที่เหนือคิ้วซ้ายเย็บมา 6 เข็ม และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย” ร.ต.อ.ประมวล กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: