เทศบาลลำปลายมาศ เดินหน้าโครงการ”โรงเรียนผู้สูงอายุ”รับสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ หวั่นอนาคตผู้สูงอายุไร้คุณภาพล้นเมือง นายกฯชี้ไม่อยากให้ใช้คำว่าเกษียณอายุ แล้วอยู่นิ่ง สมองด้านความคิดอาจตายกลายเป็นอัลไซเมอร์ เร่งให้ความดูแลรอบด้าน ทั้งสุขภาพ วิชาการ โดยเฉพาะให้ฝึกใช้สมองคิด เพื่อให้สมองฝั่งความจำมีประสิทธิ์ภาพให้นานที่สุด
วันที่ 25 ก.ย.65 นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ นายกเทศมนตรีตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผย หลังมาเป็นประธานปิดเทอมโรงเรียนผู้สูงอายุ ที่เทศบาลตำบลลำปลายมาศ ว่า
โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ (โรงเรียนผู้สูงอายุ) เทศบาลฯได้ทำขึ้นเพื่อเป้าหมายดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเป็นหลัก มีผู้สูงอายุสมัครมาร่วมโครงการมากกว่าโควตาที่ตั้งไว้คือรุ่นละ 50 คน มีกิจกรรมรวมทั้งหมด 6 กิจกรรมจำนวน 6 ครั้ง จาก 26 วัน มีทั้งด้านวิชาการ ,ด้านวิชาชีพ ด้านภัยอันตรายจากสังคมปัจจุบัน และด้านสุขภาพ ให้คนชรามาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ไปพัฒนาด้านสุขภาพของตัวเอง มีวิทยากรจากหลายอาชีพสาขา มาร่วมกิจกรรมรอบด้าน
นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำปลายมาศ กล่าวด้วยว่า เมืองไทยกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวไปแล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือสภาพความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุทั่วไป ผู้ที่เกษียณอายุราชการ ก็มักจะอยู่บ้านเฉยๆ เพราะคิดว่าทำงานมานานแล้ว อีกกลุ่มหนึ่งคือผู้สูงอายุที่ มีบุตรหลานส่งเงินมาเลี้ยงดู แล้วนั่ง นอนอยู่บ้านเฉยๆ
ลักษณะนี้น่าเป็นห่วง เพราะอวัยวะของร่างกายส่วนใหญ่เริ่มสึกหรอ โดยเฉพาะสมอง ซีกที่ทำงานอาจจะยังอยู่ได้ แต่ซีกด้านความจำจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าไม่เคลื่อนไหวหรือใช้สมองทำงานบ้าง อาจทำให้เกิดปัญหาด้านโรค”อัลไซเมอร์”ขึ้นได้ตลอดเวลา
ส่วนตัวคิดว่า ไม่อยากให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ขึ้นไป คิดว่าตนเองได้”เกษียณอายุ”ของการทำงานแล้ว หรือที่เรียกกันว่า”ถึงเวลาพักผ่อน เพราะนั่นคือภัยอันตรายด้านสุขภาพจะมาเยือน หากคนชรายัง
ภัยอันตรายกับผู้สูงอายุนอกจากจะเป็นเรื่องสุขภาพแล้ว ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพ อาศัยความชรา เข้ามาขู่กรรโชก หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มักจะหลอกผู้สูงวัยถึงบ้าน ซึ่งยังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน โครงการนี้จะช่วยให้รับรู้ข่าวสารและระวังตัวรู้เท่าทัน หากมีคนเข้ามาในลักษณะเป็นมิจฉาชีพ
