นครพนม – ความคืบหน้าจากกรณีข่าว พ่อเลี้ยงติดยาบ้า ขืนใจลูกเลี้ยงมาราธอนนานเกือบ 10 ปี โดยมีแม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ ขณะทั้งคู่ติดยานรกงอมแงม
จนกระทั่ง น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี พิเชษฐ์ แก้วจินดา ยุติธรรมจังหวัดนครพนม และคณะพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ น้องตุ้ม อายุ 16 ปี ที่ถูกพ่อเลี้ยงบังคับข่มขืนใจมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ต่อเนื่องมาจนอายุ 16 ปี โดยมีแม่บังเกิดเกล้า รู้เห็นเป็นใจให้พ่อเลี้ยงลงมืออย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
จนกระทั่งความมาแตก เมื่อน้องตุ้มตั้งครรภ์และได้คลอดบุตรเป็นเพศหญิง ทำให้ญาติๆทั้งฝ่ายพ่อแท้ๆและของพ่อเลี้ยงที่ทราบเรื่องทนไม่ไหว ได้ประสานตำรวจและหน่วยงานยุติธรรม ให้ดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆของเด็กทันที ท่ามกลางความสลดใจของผู้ที่รู้ข่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมและสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อเลี้ยงทราบชื่อต่อมาว่า นายอินทร์ปอน กิติผง อายุ 51 ปี ชาวบ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ใน 3 ข้อหาหนัก ทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า รวมถึงข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยา หรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม พร้อมกับแม่แท้ๆคือ นางสุพันนี พันสิติ อายุ 47 ปี ในข้อหาเสพยาบ้า และมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการนำ 2 สามีภรรยาอยู่ระหว่างส่งฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม รอการพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับนายพันเทพ นนทศรี อาชีพรับจ้างทั่วไป อายุ 57ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของน้องตุ้ม โดยนายพันเทพเปิดเผยว่า ตนมีลูกกับนางสุพันนี ด้วยกัน 4คน ชาย1หญิง3 ต่อมาลูกชายเสียชีวิต จึงเหลือเพียงลูกสาว 3คน คนโตออกไปมีครอบครัวแล้ว ครอบครัวเหลือเพียงน้องตุ้มและลูกสาวคนเล็ก นางสุพันนีแม่น้อง ชอบเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับยาเสพติดทั้งเสพทั้งขาย จนได้รู้จักกับนายอินทร์ปอน กิติผง ซึ่งชื่นชอบการเสพยาบ้าด้วยกัน จึงได้เลิกรากับตนไปโดยพาลูกสาวทั้งสองของตนไปด้วย
ตลอดเวลาที่ลูกสาวทั้งสองของตนไปอยู่อาศัยกับแม่และพ่อเลี้ยง ลูกๆต้องพบแต่ความลำบากเนื่องจากพ่อเลี้ยงและแม่มักหมกหมุนอยู่กับยาเสพติด เงินค่าจ้างค่าแรงที่ได้จากการทำงานทั่วไปก็หมดกับการซื้อหายาบ้าซึ่งหาได้ง่าย จึงได้พยายามส่งเสียเงินทองตามกำลังเท่าที่พอหาได้ให้น้องตุ้มเพื่อจะได้นำไปแบ่งเลี้ยงน้องคนเล็กไปด้วย ต่อมาจู่ๆลูกคนเล็กก็ร้องขอกลับมาอยู่กับพ่อขณะนั้นตนก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่ขอกลับมาจากเรื่องที่เกิดหรือไม่
ซึ่งตนไม่อยากเห็นลูกต้องออกไปใช้ชีวิตในสภาพแบบนั้นอีกต่อไป แม้ตนจะทำงานรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่มากนักก็ตาม แต่ที่ผ่านมาก็คอยส่งเสียเลี้ยงลูกมาโดยตลอด เพราะรู้ดีแม่และพ่อเลี้ยงไม่ค่อยสนใจในความเป็นอยู่ของลูกอยู่แล้ว จึงอยากขอให้ลูกๆมาอยู่กับตนจะดีกว่าแม้ฐานะไม่ดีนักก็ตามแต่เชื่อว่าสามารถหาเลี้ยงลูกได้
นางอุดร พันจี ญาติของนายอินทร์ปอน พ่อเลี้ยง เล่าให้ฟังว่า ตนนั้นแบ่งพื้นที่หลังบ้านบางส่วนให้ครอบครัวนี้พักอาศัยชั่วคราว จะดูแลอยู่ห่างๆได้บ้างไม่มากก็น้อยเพราะนายอินทร์ปอนเป็นคนมีนิสัยดุดันก้าวร้าวไม่ชอบให้ใครเข้าไปข้องเกี่ยว ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเลยเถิดข่มขืนลูกเลี้ยงมาราธอนนานถึงเพียงนี้ โดยที่ตนก็เห็นความผิดปกติในตัวของน้องตุ้มว่าทำไมจึงอ้วนผิดปกติ เมื่อสอบถามก็บอกปัดว่าน้องอ้วนอย่างนั้นเอง กระทั่งจู่ๆวันนั้น นางสุพันนี แม่น้องตุ้ม ได้เข้ามาตนบอกว่าเด็กที่อยู่ในท้องลูกของน้องตุ้มไม่ดิ้น ความดังกล่าวเลยแตกก่อนที่ได้มีการแจ้งความเพื่อสู่การจับกุมตามที่เป็นข่าว
ขณะนี้สภาพจิตใจของน้องตุ้มเริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยมี นางขาล โคตวัน ป้าแท้ๆ ซึ่งเป็นพี่สาวของนายพันเทพ ผู้เป็นพ่อ รับมาอุปการะเลี้ยงดูพร้อมหลานสาววัย 2 เดือน ลูกของน้องตุ้ม เล่าว่าหลังจากที่น้องตุ้มเริ่มคลายความกังวล ก็ได้เล่าเรื่องต่างๆที่ประสบมาจากการกระทำของพ่อเลี้ยงอย่างน่าเวทนา จนตนเองก็กลั้นน้ำตาไม่ได้ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามก็อยากให้น้องตุ้มอยู่กับตนไปก่อนเพราะทุกวันนี้ก็ไม่มีใคร ลูกสาวก็ไปทำงานอยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้กลับมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: