สงขลา-สะเดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นำทีมแถลงข่าวเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง หนุ่มชาวจังหวัดตรัง 3 นัด จนเสียชีวิต เหตุเกิดกลางเดือนกันยายน 2565 ล่าสุดผู้ต้องหามอบตัว พร้อมปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา แต่ผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ชัด เชื่อไม่พ้นความผิด
6 ต.ค.65 เวลาประมาณ 18.00 น. ที่ สภ.สะเดา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็นผู้แถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชน โดยร่วมกับ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.สะเดา
กรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายวัชโรดม หรือโย นิชรัตน์กุล อายุ 20 ปี ชาว จ.ตรัง เสียชีวิต เหตุเกิดที่ห้องเช่าเลขที่ 91 ซอยลมโชย ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 65 เวลาประมาณ 19.04 น. โดยจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 3 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่าตามวันเวลาดังกล่าวที่เกิดเหตุ นายจาย ด้ามทอง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ขับรถจักรยานยนต์ ไปหาผู้ตายที่ห้องเช่าที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีการโต้เถียงกัน เกี่ยวกับเรื่องน้องชายของผู้ตายได้นำรถจักรยานยนต์ ไปจำนำกับผู้ต้องหา และได้มาขโมยรถจักรยานยนต์กลับไป ทำให้นายจายฯโกรธ จึงได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซุปเปอร์ ( 9 ม.ม. ) ยิงนายวัชโรดมฯ จำนวน 3 นัด ก่อนถูกนำส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 65 นายจายฯ ได้เข้ามอบตัวต่อ จนท.ตร.สะเดา ซึ่ง จนท.ตร.ได้แจ้งข้อหากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ” โดยในชั้นรับมอบตัวนายจายฯ ได้ให้การ “ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ” และไม่ได้นำอาวุธปืนมามอบให้ จนท.ตร.
ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้กำชับและสั่งการให้ ภ.จว.สงขลา และสภ.สะเดา ทำการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายอย่างรอบคอบ ซึ่งทาง จนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.สงขลา ร่วมกับ สภ.สะเดา ได้ทำการตรวจค้นบ้านของ นายจายฯ และพบกล่องกระสุนปืนขนาด.38 ซุปเปอร์ จำนวน 1 กล่อง และซองพกปืนสั้น จำนวน 1 ซอง จึงได้ทำการยึดไว้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่านายจายฯได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนขนาด.38 ซุปเปอร์ ( 9 ม.ม. ) จำนวน 1 กระบอก และปืนยาวเดี่ยวขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก แต่นายจายฯให้การว่าอาวุธปืนขนาด.38 ได้หายไปเมื่อประมาณ ปี 52 แต่ไม่ได้แจ้งหาย แต่จากการสอบสวนพบว่า นายเอกลักษณ์ ด้ามทอง บุตรของนายจายฯ ได้มีการโพสต์ภาพอาวุธปืนของนายจายฯเมื่อปี 57 ซึ่งไม่ตรงกับคำให้การของนายจายฯ และต่อมานายจายฯ ได้ยอมนำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว มอบให้ จนท.ตร.ทำการตรวจยึด เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการสอบสวนพยานบุคคล พยานวัตถุที่ตรวจยึด การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานหลักฐานจากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถยืนยันการกระทำความผิดของ นายจายฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้อย่างชัดเจน ส่วนนายเอกลักษณ์ฯ บุตรชายของนายจายฯ พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ได้ดำเนินคดี ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ โดยให้การ “ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ”
