ยะลา-มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมเตรียมยื่นอุทธรณ์ ขอบรรเทาโทษหญิงพิการทางสายตาที่ถูกพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญาในคดีหมิ่นเบื้องสูง ระบุในเรือนจำไม่มีพื้นที่สำหรับผู้ต้องขังที่พิการทางสายตาเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตในสถานที่ไม่คุ้นชิน
นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ประธานกรรมการ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดยะลา เปิดเผยถึงกรณีศาลอ่านคำพิพากษาจำคุก หญิงพิการทางสายตา คดี หมิ่น มาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมาว่าเป็นคดีที่ น.ส.นูรฮายาตี มะเสาะ วัย24 ปี ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดตามมาตรา 112 ด้วยการโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบัน ซึ่งในทางคดี หลังจากมีการควบคุมตัวจำเลย ก็มีการดำเนินการฝากขังศาล และควบคุมตัวจำเลยไว้ที่เรือนจำกลางจังหวัดยะลามาโดยตลอด โดยอัยการอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ภาค 9 เป็นโจทย์ฟ้องคดีนี้
ในชั้นพิจารณา จำเลยได้ให้การรับสารภาพกับศาลศาลมีความเห็นให้มีการสืบเสาะและพินิจเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ใช้ประกอบในการพิจารณาลดโทษ หรือพิจารณาลงโทษจำเลยด้วยความปราณี และได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน โทษจำคุกไม่รอลงอาญา เนื่องจากเป็นความผิดร้ายแรง
นายอาดิลัน ระบุว่า มูลนิธิฯ ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากพี่ของจำเลย เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา และหลังจากฟังคำพิพากษาญาติยังมีความต้องการให้ทางมูลนิธิฯ อุทรณ์คำพิพากษาของศาล เพื่อให้ศาลอุทรณ์ภาค 9 พิจารณาอีกครั้งในส่วนของโทษพิพากษาโดยไม่รอลงอาญา หรือจะทำหนังสือถวายฎีกาเพื่อขอความเมตตา ในการอภัยโทษ เนื่องจากที่ผ่านมาน.ส.นูรฮายาตี มะเสาะ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ในขณะที่ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำจะมีปัญหาเป็นอย่างมากเนื่องจากจะต้องมีคนดูแล ให้การช่วยเหลือ เพราะไม่คุ้นชินกับสถานที่ ไม่ได้เป็นพื้นที่ประจำที่คนตาพิการจะรู้ว่า จะต้องเดินไปทางไหน และเชื่อว่าในเรือนจำก็ไม่มีพื้นที่สำหรับผู้ต้องขังที่พิการทางสายตา
ทั้งนี้ในส่วนของคดี กฤหมายให้สิทธิ์กับจำเลยในกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับศาลชั้นต้น สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน หรือจะขอขยายเวลาในการอุทธรณ์ได้ถ้ามีเหตุจำเป็น ในส่วนของมูลนิธิ ก็จะไปดูว่าจะสามารถช่วยเหลือว่าจะมีเหตุในการอันควรปราณีอะไรบ้างที่จะสามารถดำเนินการเพื่อขอความเมตตา เพื่อให้จำเลยได้รับสิทธิในการรอลงอาญา ในการกระทำความผิดในครั้งนี้
สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นในห้วงวันที่ 13 ต.ค.2559 ถึงวันที่ 18 ต.ค.2559 ต่อเนื่องกัน น.ส.นูรฮายาตี มะเสาะ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ได้ใช้เฟสบุ๊คที่ลงทะเบียนในชื่อ นูรฮา ยาตี โพสข้อความ หมิ่นประมาทเบื้องสูง รวมทั้งคัดลอกข้อความหมิ่นประมาท นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั้งไปอาจเข้าถึงได้ ด้วยโปรแกรมแอฟพริเคชั่นของผู้พิการทางสายตา ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 33 มาตรา 112 คำสั่งของคณะปฎิรูปการปกครองแผ่นดิน และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: