วันนี้ 12 ตุลาคม 2565 จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลทำให้ในหลายพื้นที่ของ จ.ชัยนาท ยังคงมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยล่าสุด มีรายงานว่า ศาลาอเนกประสงค์ ของวัดลัดเสนาบดี (วัดเกาะ) ในพื้นที่ ม.1 ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท เกิดการทรุดตัว เนื่องจากถูกน้ำท่วมและมีน้ำผุดตามจุดต่างๆ ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดการใช้ศาลาหวั่นทรุดตัวลงมาอีกและเกรงว่าจะได้รับอันตราย ขณะที่ยังมีน้ำผุดลอดใต้ศาลาขึ้นมาตลอดเวลา จึงต้องทำการล้อมด้วยกระสอบทรายแล้วสูบน้ำออก
นางใจย้อย เฉียดขำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาท่าพระ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ศาลาเกิดการทรุดตัวเนื่องจากมีน้ำผุดอยู่ใต้ตัวอาคาร จนทำให้อาคารที่เป็นลอยต่อกันเกิดการแยกตัวออกจากกัน ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชัยนาทได้เข้ามาทำการสำรวจและพบว่ามีความเป็นไปได้ที่อาคารอาจจะเกิดการทรุดตัวลงมาอีกเนื่องจากพื้นล่างของอาคารเป็นทรายและไหลมาตามน้ำที่เป็นลอยแตก ก่อนหน้านี้อาคารหลังดังกล่าวเป็นศาลาที่พระใช้เป็นกุฏิ พอเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจึงทำให้มีน้ำผุดใต้อาคาร เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดห้ามใช้และห้ามไม่ให้ไปอยู่ใต้ตัวอาคาร เพราะเกรงว่าหากอาคารเกิดการทรุดตัวลงมาอีกจะเป็นอันตราย
สำหรับขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อยู่ที่ 3,048 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.69 เมตร/รทก. มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 17.37 เมตร/รทก. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 3,159 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งจากสถานการณ์น้ำดังกล่าวยังคงส่งผลทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย อย่างเช่นใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ยังคงใช้ชีวิตกันด้วยด้วยความยากลำบากเนื่องจากยังมีน้ำท่วมสูง นอกจากนี้ ยังพบว่ามวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเอ่อล้นตลิ่งข้ามถนนทางหลวงแผ่นดิน สาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี (สายเก่า) ในหลายจุดทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมทางหลวง กรมชลประทาน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ได้นำรถแบ็คโฮ ขุดดินมาสร้างเป็นคันกั้นน้ำชั่วคราว และเสริมแนวกระสอบทราย เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยานั้นไหลข้ามถนนและให้ประชาชนใช้เส้นทางสัญจรได้อย่างสะดวก สำหรับในปัจจุบัน จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 7 อำเภอ 32 ตำบล 180 หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 45,196 ไร่ นอกจากนี้ยังมีถนนอีก14สายถูกน้ำท่วม และมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำแล้ว จำนวน 2 ราย
