วันนี้ 14 ตุลาคม 2565 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเกิดเหตุน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 3018 (สายคันคลองมหาราช) จนขาดรถไม่สามารถสัญจรได้ ในพื้นที่ ม.12 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดชัยนาท และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท ได้เร่งเข้าไปอพยพช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านออกมา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมวลน้ำมีกระแสแรงและไหลเชี่ยว พร้อมทั้งปิดกั้นไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ายังบริเวณจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังรับรายงานอีกว่า มีรถของประชาชนตกลงไปในน้ำและถูกกระแสน้ำไหลพัดจมหายไปโดยชาวบ้านได้ช่วยเหลือคนขับไว้ได้ทันจึงเคราะห์ดีรอดชีวิต และยังพบว่ามีบ้านของประชาชน 1 หลังถูกน้ำพัดพังเสียหาย เบื้องต้นทางจังหวัดชัยนาท และหน่วยงานี่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่ สำรวจความเสียหายพร้อมประสานชลประทานเข้าดำเนินการซ่อมแซม
นายอุดร ใยสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ม.12 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้ยินเสียงสังกะสีดังก็เลยออกมาดูและเห็นว่าน้ำไหลเร็ว ตนเองก็เลยเตรียมจะนำรถยนต์ไปจอดที่บ้านพ่อในตัวเมืองชัยนาทขณะพายเรือออกมาเรือถูกน้ำพัดจนพลิกคว่ำ ไม่รู้รอดมาได้อย่างไง ซึ่งตอนที่ตนเองเอารถไปจอดบ้านพ่อนั้นไม่เห็นว่ามีถนนขาด พอนำรถไปจอดไว้บ้านพ่อเสร็จกลับมาก็พบว่าถนนเริ่มขาดและมีกระแสน้ำไหลแรง จากนั้นภรรยาของตนได้โทรมาบอกว่าน้ำขึ้นเร็วมากไม่สามารถออกมาได้ตนเองรีบกลับมา แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยภรรยาได้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังดำเนินการช่วยเหลือภรรยาออกมา
ด้าน นายนที มนตรีวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดชัยนาท รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อำเภอสรรพยา อบจ.ชัยนาท กรมชลประทาน ได้เข้ามาทำการสำรวจดูความเสียหาย และหาวิธีการซ่อมแซมอุดลอยรั่วของน้ำ โดยเบื้องต้นจะนำไม้มาทำเป็นเสาเข็ม และนำถุงบิ๊กแบ็คมาวางอุดทางน้ำไหล ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจุดที่น้ำกัดเซาะนั้นเป็นถนนกั้นกับคลองมหาราช ซึ่งตอนนี้มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลทะลักเข้าสู่คลองมหาราชเป็นจำนวนมาก และในเบื้องต้นทางจังหวัดชัยนาท ได้ประสานไปยัง อำเภอสรรพยา ให้ประกาศหอเตือนภัยแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
