ตรัง-รำลึกในหลวง ร.9 ศิลปิน-นักดนตรีชาวตรัง จัดแสดงภาพจิตรกรรม 9 ภาพ 9 วัน ประกอบดนตรีแจ๊ส บทเพลงพระราชนิพนธ์ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทย เผย ทรงเป็นอัครศิลปิน เป็นแรงบันดาลใจ ในเรื่องความเพียร
เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา ที่ร้าน “สะ ระ ตะ” (Sa La Ta) บนถนนตรัง- กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง มีการจัดกิจกรรมเล็กๆขึ้น เพื่อรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวง ร.9) 13 ต.ค. 2565 โดยภายในงานมีการจัดแสดงภาพจิตรกรรม(ภาพวาด) พระบรมสาทิสลักษณ์ในอิริยาบถต่างๆของในหลวง ร.9 วาดโดยศิลปินทัศนศิลป์ นายจิระพัฒน์ เกิดดี ศิลปินอิสระชาวอ.กันตัง จ.ตรัง จำนวน 9 ภาพ ตรงกับลำดับรัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ภายในงานนอกจากจะมีการแสดงภาพวาดแล้ว ยังมีการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในการประพันธ์ของในหลวง ร.9 บรรเลงในท่วงทำนองดนตรีแจ๊ส โดยสมาชิกวง Trang Jazz Story ซึ่งมีสมาชิกเป็นนักดนตรี อาจารย์สอนดนตรี และคนในแวดวงดนตรีซึ่งเป็นคนตรังทั้งหมด ท่ามกลางผู้ร่วมงาน เหล่าศิลปิน ประชาชนทั่วไป ที่ต่างสวมใส่เสื้อสีเหลือง ร่วมกันยืนสลบนิ่ง และจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.9 ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ก่อนนำเทียนมาปักต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์เพื่อแสดงความเคารพ
นายจิระพัฒน์ เกิดดี หรือ อาจารย์แมว ศิลปินอิสระ ชาวอ.กันตัง จ.ตรัง เจ้าของผลงานจิตรกรรมเปิดเผยว่า จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อรำลึกวันครบรอบวันสวรรคตของในหลวงร.9 ซึ่งปกติตนและเพื่อนๆ จะจัดกิจกรรมเล็ก ๆด้านศิลปะและดนตรีเพื่อรำลึกกันทุกปี แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ต้องเว้นวรรคไปช่วงหนึ่ง ก็มีความคิดว่าวันสำคัญเช่นนี้จะทำอะไรเพื่อในหลวงร. 9 ซึ่งครั้งนี้ก็ครบรอบ 5 ปีแล้ว ที่พระองค์ท่านได้จากพวกเราไป ตนจึงได้วาดภาพในหลวง ร.9 จำนวน 9 รูป และจัดแสดงภาพวาดเป็นเวลา 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-21 ต.ค.นี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน เบื้องต้นด้วยเวลาที่จำกัดตนคิดว่าจะวาดภาพในหลวง ร.9 เป็นภาพขาวดำ แต่เมื่อเริ่มต้นวาดแล้วก็รู้สึกว่าอยากจะวาดภาพที่หลากหลาย โดยเฉพาะภาพของพระองค์ท่านที่มีรอยยิ้ม และคิดว่าต้องวาดเป็นภาพสี เพราะต้องการแสดงถึงความรัก และความมีบารมีของพระองค์ท่าน ด้วยเทคนิคการใช้แท่งถ่านวาดเป็นเส้นขาวดำ และใช้สีอะคริลิคในการลงสี จนได้ครบทั้ง 9 ภาพ
“ผมได้นำความรักความศรัทธาที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งพระองค์แสดงให้พวกเราเห็นผ่านพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ทรงเสียสละเพื่อประชาชนชาวไทย และพระองค์ได้อุทิศกายเพื่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด เป็นเวลา 70 ปี ผมเป็นเพียงศิลปินตัวเล็กๆในจ.ตรัง ตั้งแต่พระองค์ท่านสวรรคต ผมได้วาดภาพเกี่ยวกับพระองค์ท่านไว้จำนวนมาก และทำงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านมาโดยตลอด ด้วยความเป็นอัครศิลปิน พระองค์ท่านทรงมีความสามารถ มีความมุ่งมั่นและมีความเพียร ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพวาด หรือด้านภาพถ่าย หรือแม้แต่การเขียนงานพระราชนิพนธ์ต่างๆ ทรงมีพระอัจฉริยภาพครบทุกด้าน และความเพียรที่พระองค์ท่านแสดงให้เห็น และทรงพระราชนิพนธ์ผ่าน พระราชนิพนธ์พระมหาชนก ผมได้นำมาเป็นแบบอย่างในการทำงาน การสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ซึ่งงานในวันนี้ก็มาจากความเพียรเพียรและความศรัทธา”นายจิระพัฒน์กล่าว
ด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า เมื่อครั้งที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจ.ตรัง ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของคนไทย คือ เหตุการณ์การสวรรคตของในหลวง ร. 9 ทำให้เป็นความทรงจำครั้งสำคัญในชีวิตตน ที่ได้ร่วมจัดงานถวายพระเพลิงพระบรมศพให้สมพระเกียรติ ในฐานะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นแก่ประเทศไทยและพสกนิกรชาวไทย และดีใจ ปลื้มใจ ที่ได้เห็นคนตรังร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกัน ได้เห็นถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน โดยเฉพาะการยึดมั่นใจคำสอนที่พระองค์ท่านได้มอบแด่คนไทย
