X

กัน จอมพลัง เตรียมพาทหารหญิงไปแจ้งความ หลังมีรถขับตามหวั่นไม่ปลอดภัย

ราชบุรี   ในวันนี้(15 ต.ค. 65) กัน  จอมพลัง  ได้เดินทางมาพบกับนางสาว เอ ซึ่งเป็นทหารในสังกัดกองทัพไทย  ยศสิบตรี  ที่ถูก อดีตสตท.(หญิง)กรศศิร์   บัวแย้ม  หรือเจ๊นุช   อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ที่ตำบลเขาขลุง  อำเภอบ้านโป่ง  จ.ราชบุรี  หลังได้รับแจ้งว่า เมื่อช่วงประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 14 ต.ค.65 ที่ผ่านมาถูกคนขับรถปิกอัพขับรถตามขณะกำลังกลับจากไปสอบถามปากคำในคดีที่ถูก เจ๊นุช บังคับใช้แรงงานดูแลรับใช้ และทำร้ายร่างกาย  ทำให้เกิดความหวาดกลัวและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

   โดย กัน  จอมพลัง  ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าได้โทรศัพท์ มาสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีกับ น้องเอ  เนื่องจากวันจันทร์นี้ทางพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องแล้ว  ก็ได้รับรู้เรื่องที่น้องเอ ถูกขับรถตามโดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน  ช่วงบ่ายวันนี้จึงได้เดินทางมาหาน้องเอ  พร้อมกับได้เข้าไปดูจุดที่น้อง บอกว่ารถต้องสงสัย  ซึ่งเป็นรถปิกอัพมีแผงที่หลังกระบะ  คนขับเป็นผู้ชาย  แต่มองไม่เห็นป้ายทะเบียนเพราะรถเปิดไฟสูงใส่  ได้ขับตามหลังรถของน้อง  ซึ่งมีน้าสาวของน้องเอ  เป็นคนขับซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นรถที่ขับมาทางเดียวกัน  แต่เปิดไฟสูง  จึงได้จอดเพื่อให้รถคันดังกล่าวแซง  แต่กลับจอดต่อท้ายและเปิดไฟสูงใส่  จนทำให้น้าสาวของน้อง เอ  ต้องขับไปในที่ชุมชน  ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นอยู่และจอดรถเดินลงไปหากลุ่มวัยรุ่น  ทำให้รถคันดังกล่าวได้วนรถกลับไป  ซึ่งในเรื่องนี้ได้สร้างความกลัวให้กับน้องเอ  และครอบครัวมาก   ซึ่งเรื่องนี้ตนยังติดตามคดีอยู่และเรื่องก็ไม่ได้เงียบ  แต่เรื่องนั้นอยู่ในขบวนการของกฎหมาย  และยังเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่  แต่วันนี้ที่มาติดตามคดีน้องและจะไปขอดุกล้องวงจรปิดในจุดอื่นๆ ก็ทราบว่าเสียทั้งตำบล  แต่ก็จะพาน้องไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนเพื่อป้องกันความปลอดภัย  ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัยให้น้องอยู่แล้ว  แต่เวลาในช่วงเกิดเหตุอาจจะคลาดเคลื่อนกัน

    ด้านนางสาว เอ  ก็บอกว่า รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์นี้มาก เพราะในซอยเข้าบ้านนั้นจะเป็นซอยส่วนบุคคล  ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกันหมดและหากว่ามีรถแปลกเข้าไปก็จะรู้ทันเพราะปกติจะไม่มีรถคนแปลกหน้าเข้าไป  และรถคันนี้ก้ไปดับเครื่องรถ  พอน้าสาวขัยรถเข้าไปก็ติดเครื่องและขับตามไปทันที  และได้สอบถามเพื่อนบ้านก็บอกว่า รถคันนี้มาจอดรอและเมื่อเห็นรถของตนเองเลี้ยวเข้าไปมาก็ขับตามทันที  ซึ่งรถคันนี้ใช้กันหลายคน  จึงเกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัยเพราะในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่จะกลับบ้านทุกวันเพราะต้องไปสอบปากคำ  แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัย  แต่ในช่วงเกิดเหตุอาจจะคลาดเคลื่อนกัน  แต่หลังจากนี้ก็จะต้องคอยระวังตัวมากขึ้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี