ตำรวจภูธรนครพนม แถลงข่าว กรณีที่ปรากฏคลิปข่าว ผ่านสื่อออนไลน์ แฉคลิปเหตุการณ์ตำรวจนอกเครื่องแบบ ทำร้ายร่างกายประชาชนบนโรงพักนาโดน
วันที่ 20 ต.ค.65 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรนครพนม พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม ร่วมแถลงข่าวกรณีมีการแชร์คลิปที่อ้างว่าถ่ายทำบนโรงพัก สภ.นาโดน ว่าเป็นเหตุการณ์หลังจากผู้เสียหายถูกตำรวจนอกเครื่องแบบทำร้ายร่างกายบนโรงพัก โดยนายอนุชิต เพ็ชรรัตน์ บ้านเลขที่ 179 หมู่ 6 บ้านดงมะเอก ต.โพนทอง อ.เรณูนคร ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้เปิดเผยคลิปดังกล่าวโดยอ้างว่าบุตรชายคือนายณัฐนนท์ เพชรรัตน์ อายุ 21 ปี ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไปสภ.นาโดน แล้วนำตัวเข้าห้องสอบสวนและทำร้ายร่างกายบนชั้นสอง ต่อหน้านายอนุชิต ผู้เป็นพ่อ แต่เนื่องจากในห้องปิดไฟจึงไม่สามารถถ่ายคลิปตอนถูกทำร้ายได้ ตามคลิปที่ถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต. ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจาก สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ที่ร้านอาหาร ร้านชิวบาร์ หมู่ 11 ต.โคกหินแห่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2565 เวลา 22.00 น. โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ส.ต.ต.ฎนัย(สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโดนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.นาโดนว่า ตามวันเวลาดังกล่าว ตนกับเพื่อนได้ไปเที่ยวที่ร้านชิวส์บาร์ที่เกิดเหตุ ได้มีนายนนท์ฯ เข้ามาถ่ายภาพรถยนต์ของตน เพื่อนที่ไปด้วยกันสอบถามว่าทำไมถึงถ่ายภาพรถของตน บิดาของ นายนนท์ฯ ตอบว่ามีปัญหานิดหน่อย แล้วนายนนท์ฯ ถามตน ทำนองท้าตีท้าต่อยว่า “เดี่ยวกันไหม” พร้อมกับเดินเข้ามาใช้เท้าถีบตนที่บริเวณหน้าทอง 1ครั้ง ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้ง ร้อยเวร 20 ออกไปตรวจสอบระงับเหตุ ร้อยเวร20 สอบถาม นายนนท์ฯให้การยอมรับว่าใช้เท้าถีบตนจริง จึงนำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้ามาที่ สภ.นโดน ห้องสืบสวน ชั้น 2 แต่สังเกตเห็นว่านายนนท์ฯ มีลักษณะมึนเมาคล้ายคนเสพยาเสพติด จึงขอทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพา นายนนท์ฯไปเก็บตัวอย่างน้ำปัสสาวะที่ห้องน้ำชั้น ล่าง ของ สภ.นาโดน แต่นายนนท์ฯ บอกว่าไม่ต้องลงไปข้างล่าง ขอทำการเก็บตัวอย่างน้ำปัสสาวะที่ห้องบริเวณชั้น 2 โดยตนเป็นคนพานายนนท์ฯ ไปเก็บตัวอย่างน้ำปัสสาวะในห้องประชุมชั้น 2 ขณะนั้นยังไม่มีใคร อยู่ในห้อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะเดินไปเปิดไฟในห้องชั้น 2 เพื่อตรวจปัสสาวะ นายนนท์ฯ เกิดขัดขืนและพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปดึงตัวและกอดตัวนายนนท์ฯไว้ (ขณะนั้นในห้องมีตำรวจเพียงนายเดียว) จากนั้นบิดาของนายนนท์ ได้เข้ามาในห้องเพื่อห้ามแยกออกจากกัน แต่นายนนท์ฯ ยังมีอารมณ์โกรธไม่ยอมแยกออก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่แต่งกายนอกเครื่องแบบพร้อมกับบิดาของ นายนนท์ ช่วยกันแยกนายนนท์ ออกจากตน ซึ่งปรากฏตามคลิปที่เป็นข่าวในสื่อออนไลน์ โดยวันนั้นยังไม่มีการจับกุมหรือตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด นายนนท์ฯ แต่อย่างใด เนื่องจากนายนนท์ฯ ขัดขืนและมีบิดาคอยช่วยเหลือ ซึ่งตนได้เข้าพบพนักงาน สอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายนนท์ แล้วโดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วได้ทำการสอบปากคำผู้กล่าวหา สอบปากคำพยานบางส่วน ถ่ายภาพตรวจที่เกิดเหตุ แจ้งชุดสืบสวน และส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายชันสูตรบาดแผลที่โรงพยาบาลเรณูนคร จะได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อทราบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ตนได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับมีคำสั่งย้าย ส.ต.ตฎนัย ออกนอกพื้นที่แล้วโดยให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สภ. บ้านกลาง ก่อน ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความกังวลใจในการตรวจสอบของทั้งสองฝ่าย ผลจะเป็นอย่างไร จะรีบดำเนินการให้เรียบร้อยต่อไป
ซึ่งตนอยากให้มีการพูดคุยกันในเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ผกก.สภ.เรณูนคร เป็นผู้ดูในข้อเท็จจริง พร้อมประสานให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกัน ในส่วนของ ภ.จว.นครพนมพร้อม จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: