สงขลา-สะเดา เจ้าหน้าที่ตำรวจคุม 2 ผู้ต้องหาร่วมกับพวกก่อเหตุชิงยาบ้า และหวังชิงตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ไปชี้จุดทิ้งรถในอ่างเก็บน้ำ หลังติดตามจับกุมได้ในพื้นที่รอยต่อจังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง ล่าสุดจับผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน และเตรียมขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน
พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนภาค 9 ควบคุมตัว นาย เสริมศักดิ์ ศรีสุวรรณ และ นาย กัมปนาท หมัดอาดั้ม 2 ผู้ต้องหา ร่วมกับพวกก่อเหตุล้อมรถของ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา ไปชี้จุดที่ทิ้งรถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น Attrage สีดำ หมวดทะเบียน 1 กจ 5064 กรุงเทพมหานคร ของหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่ถูกชิงไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือและของกลางยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ด หลังตำรวจตามจับกุมทั้งสองคนได้ระหว่างหลบหนีอยู่ในพื้นที่รอยต่อจังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง
ข่าวน่าสนใจ:
โดยทั้งสองคนได้ยอมรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุกับพวกจริง ก่อนนำยาบ้าไปทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง จากนั้นก็นำรถของหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำบ้านควนนา หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
ซึ่งเจ้าหน้าที่อาสาชุดปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำ มูลนิธิ ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง หาดใหญ่ 2 คน ได้ลงค้นหารถคันดังกล่าว ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก็พบรถหงายท้องอยู่ใต้น้ำ ก่อนที่จะใช้รถยกดึงโซ่ลากรถคันดังกล่าวขึ้นมาบนขอบอ่างเก็บน้ำ ขณะที่ตรวจสอบภายในรถ พบกระเป๋าเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนบัตรข้าราชการของหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือที่ถูกชิงไปหลังเกิดเหตุจำนวน 6 เครื่อง ซึ่งตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้งสองคนลงจากรถตู้มาชี้จุดก่อเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย
จากการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากสามารถจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ ได้แล้วทั้งหมด 5 คน และเตรียมที่จะขอศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 4 คนส่วนของกลางที่ใช้ก่อเหตุรถยนต์ 2 คันและรถกระบะติดตั้งรั้วด้านหลัง 1 คันพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตำรวจติดตามยึดมาได้หมดแล้ว ขณะนี้ยังเหลืออาวุธปืนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุยึดไปจากชุดปฏิบัติการพิเศษเป็นอาวุธปืนพกสั้นประจำกายของราชการ 4 กระบอกและของส่วนตัว 1 กระบอก
สำหรับ ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาหนัก ประกอบด้วยปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ, เป็นอั้งยี่ ซ่องโจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใด้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และโดยไม่มีเหตุอันควร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: