น้ำท่วมกาฬสินธุ์ยังขยายวงกว้างล่าสุดปิดถนนสายกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ระยะทางกว่า 3 กม.หลังมวลน้ำจากพนังขาดเอ่อท่วมสูง และกระแสน้ำแรงเสี่ยงอันตราย แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์จัดเส้นทางเลี่ยงจากสี่แยกบ้านบ่อไปอำเภอร่องคำเข้าสู่จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมขออภัยประชาชนที่ต้องเดินทางไกลกว่าเดิม ขณะที่รักษาราชการแทนผวจ.กาฬสินธุ์เผยข่าวดีคืบหน้าซ่อมพนังขาดเหลืออีกเพียง 10 เมตร คาดว่าเสร็จวันนี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ตุลาคม 2565 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ นายชัยโรจน์ แก้วแกมแข รองผอ.ฝ่ายปฏิบัติการ แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ นายณัฐพล เพียรภายลุน รักษาราชการแทนนายอำเภอกมลาไสย นายประสงค์ จันทร์กระจ่าย ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ นายสาจิต จันทรศิริ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ปภ.กาฬสินธุ์เข้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 214 เส้นทางกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด บริเวณบ้านหนองบัว ถึง บ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลไสย หลังมวลน้ำจากพนังกั้นแม่น้ำชีที่ขาดในพื้นที่ อ.ฆ้องชัยได้ไหลเอ่อเข้าท่วมเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ซึ่งระดับน้ำยังท่วมสูง และก่อนหน้านี้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้
ข่าวน่าสนใจ:
นางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรตั้งแต่บริเวณบ้านหัวแฮด และบ้านหนองบัว ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสยยาวไปจนถึง 4 แยกไฟแดงสะพานข้ามแม่น้ำชี ต.เจ้าท่า ทางไป อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยงดให้รถทุกชนิดผ่าน เนื่องจากระดับน้ำตลอดเส้นทางที่ท่วมถนนสูงกว่า 80 ซม. และกระแสน้ำที่ไหลข้ามเกาะกลางแรงและไหลเชี่ยวเสี่ยงอันตราย นอกจากนี้เส้นทางเลี่ยงเดิมบ้านหนองตุ ไปยังบ้านโจด รวมทั้งถนนโดยรอบถูกน้ำท่วมและมีระดับสูงทั้งหมด ทำให้แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ กรมทางหลวง จึงมีความจำเป็นต้องให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนน เลี่ยงใช้เส้นทางจาก 4 แยกไฟแดงบ้านบ่อ อ.กมลาไสย เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ มุ่งหน้าเข้า จ.ร้อยเอ็ดต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงคอยอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขออภัยประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางที่มีระยะทางไกลกว่าเดิม
ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนงดสัญจรเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากน้ำท่วมสูง และเสี่ยงเกิดอันตราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เตรียมที่จะดำเนินการเบี่ยงเส้นทางน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีที่บริเวณ ต.เจ้าท่า เพื่อให้ระดับน้ำท่วมลดลงโดยเร็วที่สุด
นายศุภศิษย์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการซ่อมแซมพนังกั้นแม่น้ำชีที่บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถอุดช่องทางที่ขาดด้วยการนำหินใส่ตะแกรงเหล็กเกเบียนได้แล้ว 40 เมตร จากเดิมที่ขาดยาวถึง 50 เมตร ยังคงเหลืออีกเพียง 10 เมตรเท่านั่นถือเป็นข่าวดี คาดว่าจะสามารถอุดรอยรั่วได้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ เพื่อสกัดมวลน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของประชาชนเพิ่มอีก พร้อมกับเร่งระบายน้ำออก โดยขณะนี้เตรียมพร้อมสถานีสูบน้ำกุดขี้นาคและสถานีสูบน้ำกุดแคน เพื่อระบายน้ำพร้อมๆ กับการเปิดประตูน้ำทุกบาน ในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำชี นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจากชลประทาน อบจ.กาฬสินธุ์ และจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 ขอนแก่น เพื่อเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุดด้วย
สำหรับผลกระทบที่เกิดจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดล่าสุด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน 1,114 ครัวเรือน 3,451 คน แยกเป็น อ.ฆ้องชัย จำนวน 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน 860 หลังคาเรือน 2,596 คน และ อ.กมลาไสย จำนวน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน 284 หลังคาเรือน 855 คน มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมทั้งสิ้น ประมาณ 72,654 ไร่ พื้นที่การประมง 282 ไร่ ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจเพิ่มเติม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: