ตรัง ผบช.ภ.9 แถลงข่าวมอบตัวแล้วจ่าตำรวจมือยิง ตาย 1 เจ็บ 2 ในสถานบันเทิงกลางเมืองตรัง เมื่อคืนวานนี้ เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำไปตรวจยึดปืนยาว และเสื้อเกราะ กลับคืนมา โดยบรรยากาศก่อนการแถลงข่าวพบว่า บรรดาญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตประมาณ 30 คน นำโดยนายวิรัตน์ รักนาย สมาชิกสภา อบจ.ตรัง ได้เดินทางมาติดตามรับฟังการแถลงข่าวด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่เชิญตัวแทนประมาณ 3-4 คน รวมทั้งผู้จัดการร้านคันทรีโฮม สถานบันเทิงที่เกิดเหตุเป็นตัวแทนเข้ารับฟังด้วย
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรตรัง ,รองผู้บังคับการ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีผู้ต้องหาคือ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด เจ้าหน้าตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภ.จว.ตรัง SWAT ซึ่งถูกศาลจังหวัดตรังออกหมายจับ หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงนายจิตกร คงจันทร์หรือขาว คนสนิท สจ.เมืองตรังเสียชีวิต และมีนักเที่ยวบาดเจ็บอีก 2 ราย เหตุเกิดภายในสถานบันเทิงชื่อดังเมืองตรัง “คันทรี่โฮม” ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อคืนวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น 9 มม.กระบอกที่ใช้ในการก่อเหตุ และกระสุนปืน 1 นัด โดยบรรยากาศก่อนการแถลงข่าวพบว่า บรรดาญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตประมาณ 30 คน นำโดยนายวิรัตน์ รักนาย สมาชิกสภา อบจ.ตรัง ได้เดินทางมาติดตามรับฟังการแถลงข่าวด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่เชิญตัวแทนประมาณ 3-4 คน รวมทั้งผู้จัดการร้านคันทรีโฮม สถานบันเทิงที่เกิดเหตุเป็นตัวแทนเข้ารับฟังด้วย
พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เริ่มต้นการแถลงข่าวทั้งในนามภาค 9 และตัวแทนผู้บัญชากตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งปกติก็จะกวดขันเรื่องการใช้อาวุธปืนอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้พกพาในคนที่ไม่มีใบอนุญาตพก ว่าให้พกพาได้เฉพาะในกรณีการทำงานเท่านั้น เสร็จแล้วก็ต้องคืนไม่ให้พกพอ เพราะเมื่อพกพาและเมื่อดื่มสุราก็อาจทำให้ใจร้อนเกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต่อไปหากเกิดเหตุแบบนี้จะเอาผิดผู้บังคับบัญชาด้วย เพื่อจะไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป โดยยอมรับปืนที่ผู้ต้องหาใช้เป็นปืนราชการ และผู้ต้องหาคนดังกล่าวก็ไม่ได้มีใบอนุญาตพกพาไปในที่สาธารณะ เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหา 3 ข้อหา คือ ฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยืนยันจะไม่ต่อสู้ใด ๆ ในชั้นศาล พร้อมยอมรับผิดทุกประการ ยืนยันคดีนี้ทางตำรวจจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาขอให้ญาติ ๆ ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมั่นใจได้ ทั้งนี้ หลังก่อเหตุผู้ต้องหาใช้รถยนต์กระบะหนีกลับบ้านและกลับมาเอาอาวุธปืนยาว และเสื้อเกราะกันกระสุนหลบหนี โดยบอกว่าเอาไปเพื่อต้องการจะไว้ป้องกันตัว หากมีครอบครัวผู้เสียชีวิตติดตามไป แต่สุดท้ายก็เอาไว้ฝังไว้หลังบ้าน จากนั้นก็เดินเท้าหนีไปหลบซ่อนตัวห่างจากบ้านพักประมาณ 1กม.เป็นเวลา 1 วัน 1 คืน สุดท้ายก็ยอมเดินทางกลับมาพบแม่ที่บ้านพัก และติดต่อขอมอบตัว พร้อมนำไปเอาอาวุธปืนที่ขโมยไป ทั้งนี้ ได้ให้ออกจากราชการแล้ว ส่วนเพื่อนของผู้ต้องหาที่ไปด้วย ต่างคนต่างไป แต่ไปเจอกันที่ผับดังกล่าว แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้น ทางตำรวจได้เข้าไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนกรณีจะมีการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด
นอกจากนั้น ทางญาติและผู้จัดการสถานบันเทิง ได้ตั้งคำถามถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่นักท่องเที่ยวเสียชีวิต จากการกระทำของเจ้าหน้าที่ และทำให้ผับเสียหาย ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจ.ตรัง ว่ามีแนวทางแก้ไขและป้องกันอย่างไรบ้าง โดยทางผู้จัดการสถานบันเทิง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากความผิดของสถานบันเทิง แต่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐที่อ้างว่าเข้าไปตรวจสอบเรื่องยาเสพติด การ์ดจึงอนุญาตให้เข้าไปพร้อมกับอาวุธปืนที่พกติดตัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถานบันเทิง และเสียหาย กระทบกับลูกน้องที่ทำงานหลายสิบชีวิต ในวันพรุ่งนี้เตรียมจะทำบุญใหญ่
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จากสวนปาล์มตรังสู่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานต้นแบบ ขุดสระน้ำเป็นรูปเลข 9 อารบิก สอดคล้องกับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ตรัง ราคายางดิ่งกว่า 20 บาทต่อกิโลกรัม กยท.หนุนสถาบันทำโครงการชะลอยางสู้นายทุน
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
ต่อมาทางผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 9 ได้ให้ตัวแทนของครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าพบเป็นการส่วนตัว โดยบอกให้ความมั่นใจกับการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ญาติแสดงความพอใจ เชื่อมั่นว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา แต่ทางตำรวจไม่ได้พูดถึงการเยียวยา มีแต่ทางเจ้าของสถานบันเทิงเบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือแล้ว 10,000 บาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: