อบจ.ระนองจับมือ สปสช.เขต 11 ตั้งกองทุนฟื้นฟูฯสมรรถภาพระดับจังหวัด
(28 ต.ค.65) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง นายธนกร บริสุทธิญาณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองพร้อมด้วย นางพนิต มโนการ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเชาวลิต ลิบน้อย ผู้จัดการกลุ่มภารกิจการเข้าถึงบริการปฐมภูมิและการจัดหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น และนายสุวิทย์ หลักชัย ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองร่วมลงนามจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด พร้อมตั้งงบประมาณสมทบ 7 แสนบาท มุ่งเน้นด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้สูงอายุและคนพิการ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพด้านสาธารณสุข ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดในระยะ 1-2 ปีนี้
ข่าวน่าสนใจ:
นายธนกร บริสุทธิญาณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามที่ได้รับการประสานจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เพื่อพูดคุยถึงวัตถุประสงค์ และแนวทางการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการแสดงความจำนงในการเข้าร่วมกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 จากเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด จะเห็นได้ว่าประชาชนพี่น้องชาวจังหวัดระนองจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการเข้าถึงระบบ หลักประกันสุขภาพด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ
โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ รวมทั้งการดำเนินงานกิจกรรมด้านสุขภาพอื่นๆ และไม่เสียโอกาสในการได้รับบริการด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2555 โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และแนวทางการพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพด้านสาธารณสุข ตามนโยบายที่ได้ ให้ไว้กับประชาชนพี่น้องชาวจังหวัดระนอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองจึงได้พิจารณาเข้าร่วมดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยการตั้งงบประมาณสมทบ เป็นเงิน 700,000- บาท สำหรับ จังหวัดระนอง มีจำนวนผู้พิการ 9,266 คน ผู้สูงอายุ 46,821 คน ผู้สูงอายุติดบ้าน 41 คน ติดเตียง 20 คน และมีผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นผู้พิการอีก 557 คน
ซึ่งที่ผ่านมา องค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาล มีขอบเขตการทำงานในพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองและมีรูปแบบ มีคุณภาพการดูแลต่างกันไป แต่ในกรณีของ อบจ. มีขอบเขตการทำงานทั้งจังหวัด จึงสามารถให้การดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการได้ครอบคลุมและมีคุณภาพเท่าเทียมกัน อีกทั้งผู้บริหารของ อบจ. ก็มาจากการเลือกตั้ง จึงเข้าใจและเข้าถึงประชาชน สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น การร่วมมือกับ สปสช.ในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวขึ้น ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุและคนพิการได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพและได้รับการดูแลด้านสภาพแวดล้อมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: