สระแก้ว – เพื่อนบ้านสุดทน ก่อเหตุฆ่าฟันหัวแบะตายหลังบ้านข้ามคืน สาเหตุทะเลาะกันมานานเกือบ 10 ปี เรื่องกินเหล้าเมาแล้วส่งเสียงดังรบกวน เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ตำรวจตามรวบผู้ก่อเหตุได้ทันควัน สารภาพทำไปเพราะบันดาลโทสะ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 29 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์สื่อสาร สภ.วังน้ำเย็น ได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 53 ม.13 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ,พ.ต.ท.สุรเศรษฐ์ ประภาศิริ รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ท.วีระ วัฒนาณรงค์ชัย สวป.ฯ, พ.ต.ต.วัชรินทร์ เพชรภักดี สว.สส.ฯ พร้อมด้วยชุดสืบสวน พนักงานสอบสวนเวร สายตรวจรถยนต์ สายตรวจตำบล เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ โดยมี ร.ต.อ.ยศ ชาสมบัติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น ร้อยเวรเจ้าของคดี ร่วมถ่ายภาพที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุ สอบถามพยานบุคคล พยานแวดล้อมและชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นายอรัญญ์ อนุอัน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.13 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จว.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพศพของ นายอรัญญ์ฯ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณด้านหลังบ้านเลขที่ดังกล่าว ศพมีสภาพ ถอดเสื้อ ตามร่างกายมีรอยบาดแผลถูกฟันเป็นแผลลึกที่ศีรษะและบริเวณหูข้างซ้าย แขนทั้ง 2 ข้าง เลือดนองพื้น มีลักษณะคล้ายโดนอาวุธของมีคม เสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00 น.วานนี้(28 ต.ค.) จนกระทั่งเพื่อนมาหาผู้ตายช่วงเช้าประมาณ 06.00 น.เพื่อชวนไปกินเหล้าและเรียกไม่ตอบ จึงเดินอ้อมไปดูที่หลังบ้านจนพบผู้ตายนอนตายจมกองเลือดอยู่หลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามชาวบ้านข้างเคียง ซึ่งให้การว่า ผู้ตายอาศัยอยู่บ้านคนเดียว และมีพฤติกรรมดื่มสุราและส่งเสียงดังเป็นประจำ
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบด้ามมีด ซึ่งทำด้วยไม้ไผ่มีคราบเลือดติดอยู่ หักตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และพบตัวมีดพร้าที่มีคราบเลือดติดอยู่ ตกอยู่ข้างบ้าน ระหว่างบ้านผู้เสียชีวิตและบ้านของ นายประยูร บุญวิลัย อายุ 57 ปี ผู้ต้องสงสัย อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.13 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามตัว นายประยูรฯ มาสอบปากคำที่ สภ.วังน้ำเย็น โดยนายประยูรฯ ให้การว่ารับสารภาพว่า ได้ทำร้ายร่างกาย ผู้เสียชีวิต โดยใช้อาวุธมีดพร้า ฟันหญ้า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบบริเวณที่เกิดเหตุ ใช้ในการก่อเหตุ เนื่องจาก ผู้เสียชีวิต ได้ดื่มสุราและส่งเสียงดังรบกวน โดยนายประยูรฯ ได้เข้าไปตักเตือนผู้เสียชีวิต แต่ถูกท้าทาย จนทำให้เกิดความโมโห จึงได้กลับไปเอาอาวุธมีดพร้าที่หลังบ้านตนเองมา เพื่อต่อสู้กับ นายอรัญญ์ฯ ผู้ตาย ซึ่งผู้เสียชีวิตก็ใช้อาวุธมีดต่อสู้เช่นกัน แต่สู้ไม่ไหวถูกฟันลงไปนอนจมกองเลือด เพราะตัวเล็กกว่าเพื่อนบ้าน
นายประยูร บุญวิลัย อายุ 57 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งถูกคุมตัวมาสอบสวนและบันทึกจับกุมที่ สภ.วังน้ำเย็น ภายหลังรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยนายประยูร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า หลังใช้มีดฟันกันจนด้ามมีดหัก และคนตายล้มลงคิดว่า แค่บาดเจ็บ ก็จึงเดินออกไปเอามีดไปทิ้งข้างบ้านแล้วออกไปนาและทำงานปกติ กระทั่งกลับเข้าบ้านช่วงเย็นและเข้าบ้านนอน เช้าก็ออกไปธุระแต่เช้า กลับมาเจอรถตำรวจและคนมุงดูหน้าบ้านเต็มไปหมด กระทั่งตำรวจมาล็อคตัวพามาที่สถานีตำรวจ ซึ่งก่อนเกิดเหตุไปบอกคนตายดี ๆ เพราะชาวบ้านเขารำคาญ แต่คนตายจะเอามีมาฟัน จึงเดินกลับมาที่บ้านเพื่อเอามีดดายหญ้า ซึ่งมันทั้งร้องเพลง ทั้งด่าสารพัดอย่าง เมื่อต่อสู้กันตนโดนฟันที่มือ จึงใช้มีดฟันกลับไปโดนที่หัว 1 ครั้งและครั้งที่ 2 ฟันไปถูกไม้และพื้นปูนด้ามมีดจึงหัก
“มีปัญหากับเพื่อนบ้านคนนี้มานานกว่า 10 ปี ทุกครั้งมีแต่ร้องบอกมัน นอนกันไม่ได้เลย บางทีตี1 ตี 2 กินเหล้ากินอะไรกัน ตะโกนด่ามันให้มันหยุด ไม่ได้นอน จนทนไม่ไหวแล้ว มันสุด ๆ ด่ากันก็แล้ว บอกกันก็แล้ว คราวนี้บันดาลโทสะจึงทำลงไป ถ้ามันไม่เอามีด ถือมีดจะมาฟันเราก็คงไม่โต้ตอบกลับไป ” นายประยูร กล่าว
ทางด้าน นายบุญมี จันทร์น้ำใส อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.13 กล่าวว่า คนตายจะอยู่คนเดียว ทำมาหากินหาได้เท่าไหร่ก็กินแต่เหล้า พูดจาก็ไม่ฟังคน มีเรื่องมีราว ตัวเองก็ตัวไม่ใหญ่ ไม่ค่อยฟัง เรื่องทะเลาะกันก็ไม่รู้ แต่อาจะเสียงดังในบ้านรบกวนเค้าไม่ได้หลับได้นอนกัน เพราะตามกระแสมาในพื้นที่ ม.13 คนตายก็ไปติดบัญชีค่าเหล้าไว้ทั่ว 10 กว่าคน ตี 1 ตี 2 หมาเห่าระงม ใครเตือนก็ไม่ฟัง สาเหตุอาจจะกินเหล้าหนวกหู ขอร้องและว่ากล่าวกันแล้ว ซึ่งคนที่ทำก็เป็นเพื่อนบ้าน บ้านอยู่ติดกัน ตอนนี้ยอมมอบตัวแล้ว ซึ่งเขาบอกว่า โมโหสุดขีด เตือนไม่รู้ต่อกี่ครั้งก็ไม่ฟัง ทะเลาะกันจึงก่อเหตุไป อีกทั้งจำนนด้วยหลักฐานคือ มีดหัก ด้ามมีดอยู่บ้านคนตายแต่ตัวมีอยู่ฝั่งบ้านคนฆ่า จึงยอมรับสารภาพ
——————————-
