พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุมตัวนายนิว อายุ 20 ปี อดีตลูกจ้าง เตะนายจ้างดับ ก่อนนำศพมาทิ้งในป่าใต้ต้นกระถิน แล้วนำโทรศัพท์ผู้ตายโพสต์รับงานบอกว่ารับงานต่างจังหวัด ก่อนจะนำรถ และอุปกรณ์เครื่องมือช่างไปขาย ก่อนจะมาโดนจับ เจ้าตัวอ้างแค้นที่ถูกผู้ตายเลิกจ้าง ทำให้ตกงาน และจ่ายเงินช้า
อ่านข่าว พบศพชายนิรนาม ถูกฆ่ารัดคอนำศพมาทิ้งในป่าใต้ต้นกระถิน
อ่านข่าว รู้แล้วเหยื่อถูกฆ่ารัดคอนำศพมาทิ้งในป่าเป็นผู้รับเหมา ล่าสุดตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 / พล.ต.ต.พัลภล แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ. มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนาย จีระศักดิ์ (หรือนิว) เรียนเที่ยง อายุ 20 ปี อดีตลูกจ้าง ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.703/2565 ลง วันที่ 30 ตุลาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ ซังซุงจำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ออปโป้ จำนวน 1 เครื่อง รองเท้ายี่ห้อมาร์ตินชนิดหัวเหล็ก จำนวน 1 คู่ อุปกรณ์เครื่องมือช่าง จำนวน 25 รายการ สามารถจับกุมตัวได้ภายในซอยวัดบำเพ็ญเหนือ มีนบุรี กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 17.50 น.เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.บางงแก้ว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บางแก้ว กรณีพบศพชายนอนเสียชีวิตคว่ำหน้าอยู่ในพงหญ้าใกล้เคียงกับหมู่บ้านสุริยา 1 ม.9 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ร.ต.อ.เดชชาติ สารุณา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว จึงเดินทางตรวจสอบ พบศพชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะนอนคว่ำหน้า สวมกางเกงใน สีกรม เพียงตัวเดียว ไม่สวมเสื้อและกางเกง มีเศษไม้ปิดตามตัวและหัว บริเวณข้อเท้าทั้งสองข้างถูกมัดด้วยเชือกผ้าทอสีน้ำเงิน สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน จึงได้ร่วมกับพิสูจน์หลักฐานสมุทรปราการ และแพทย์โรงพยาบาลบางพลี ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจากการสืบสวนต่อมาทราบว่า ผู้ตายคือ นายมกรธวัช (หรือโต้ง) ก้องวัฒนพงศ์ อายุ 37 ปี อาชีพผู้รับเหมาต่อเติมบ้านและอาคาร เสียชีวิตเนื่องจากถูกฆาตกรรม แล้วถูกนำศพมาทิ้งไว้ จากนั้นจึงได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทราบตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆ่าผู้ตาย คือ นายจีรศักดิ์ (หรือนิว) เรียนเที่ยง และต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัว นายจีรศักดิ์ ได้ภายในซอยวัดบำเพ็ญเหนือ มีนบุรี กรุงเทพมหานคร นำตัวมาสอบสวน
พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าว่า สำหรับคดีนี้ ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยสาเหตุมาจากความคับแค้นใจเรื่องทำงานประกอบกับค่าแรงที่ผู้ตายจ่ายล่าช้า อีกทั้งก่อนก่อเหตุผู้ต้องหาติดโควิดและต้องหยุดทำงานทำให้ไม่มีเงินในการใช้จ่าย อีกทั้งภรรยากำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนจึงเกิดความเครียดสะสม จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลที่ไปรักษาตัวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 65 ที่ผ่านมา และได้ซื้อสุรามาดื่มจนเมาได้ที่จึงตัดสินใจเดินทางมาหาผู้ตายที่ห้องพักเพื่อเคลียร์ปัญหาต่างๆ ด้วยความที่ผู้ต้องหาอารมณ์ร้อนพอเดินทางมาถึงจึงลงมือก่อเหตุด้วยการชกต่อยและเตะด้วยรองเท้าคอมแบคหัวเหล็กไปหลายครั้งจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุกลัวความผิดจึงนำรถยนต์ของผู้ตายใส่ศพนำมาทิ้งข้างทาง จากนั้นจึงย้อนกลับมานำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปจอดไว้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ โดยที่ผู้ต้องหารายนี้ระหว่างนั้นได้วางแผนสร้างเรื่องราวทั้งหมดให้เปรียบเสมือนผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ ด้วยการนำโทรศัพท์ของผู้ตายโพสต์ข้อความได้งานใหม่ที่สงขลาและสมุทรปราการ พร้อมทั้งมีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ของผู้ตาย จนกระทั่งสามารถขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้สำเร็จ จากนั้นผู้ต้องหาจึงติดต่อภรรยาตัวเองรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุดังกล่าว จนกระทั่งฝ่ายสืบสวนไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว หลังจากนี้จะขยายผลติดตามรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ขายไปตามกลับคืนมา รวมถึงขยายผลผู้ที่รับซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเนื่องจากทราบว่าเป็นขบวนการรับซื้อรถผิดกฎหมายและส่งขายต่างประเทศ
จากการสอบสวน นาย จีระศักดิ์ (หรือนิว) เรียนเที่ยง ให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริงโดยสาเหตุเกิดจากความคับแค้นใจที่ถูกผู้ตายเลิกจ้าง ทำให้ตนต้องตกงาน จึงลงมือฆ่าผู้ตาย โดยในกลางดึกคืนวันเกิดเหตุ วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ตนเองมาที่โกดัง ซึ่งเป็นห้องพักของนายมกรธวัช (หรือ)โต้ง ก้องวัฒนพงศ์ ผู้ตาย พอมาถึงจึงเปิดประตูเลื่อนเข้าไป ทำให้ผู้ตายเห็นตนเองและรีบเข้าห้องพักตนเองจึงวิ่งตามเข้าไปในห้องของผู้ตาย จากนั้นใช้มือชกเข้าที่ขมับขวาของผู้ตายไปหนึ่งครั้งจนล้มลงทั้งคู่และมีการต่อสู้กันพอตนเองตั้งหลักได้จึงตีเข่าใส่ผู้ตายไปครั้งหนึ่ง จนล้มลง จากนั้นใช้เท้าที่ใส่รองเท้าหัวเหล็กเตะอัดที่ลำตัวของผู้ตายไปอีกหลายครั้งจนแน่นิ่งแล้วเตะซ้ำที่ลำคอของผู้ตายอีกหลายครั้งจนผู้ตายสลบไป ด้วยความกลัวในความผิดที่ทำไปจึงตัดสินใจนำรถกระบะของผู้ตายมาจอดเทียบหน้าห้องพักเพื่อนำร่างผู้ตายขึ้นรถ ระหว่างนั้นยอมรับว่าตนเองยังเตะซ้ำที่ก้านคอและลำตัวของผู้ตายอีกครั้งเพราะกลัวจะฟื้น จนแน่ใจว่าเสียชีวิต จึงนำเชือกที่อยู่ท้ายรถมามัดขา ของผู้ตายก่อนจะนำใส่รถมาโยนทิ้งข้างทาง หลังจากนั้นได้นำเครื่องมือช่างที่อยู่หลังรถไปขาย รวมถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปโพสต์ขายดังกล่าว จนเจ้าหน้าที่ติดตามไปจับกุมตัวได้
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนาย จีระศักดิ์ หรือ นิว เรียนเที่ยง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โกดังเลขที่ 19/39 หมู่ที่ 3 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นห้องพักของนายมกรธวัช (หรือโต้ง) ก้องวัฒนพงศ์ ผู้ตาย ที่เกิดเหตุลงมือฆ่าก่อนที่จะนำศพใส่รถยนต์ของผู้ตายไปทิ้งที่ ในพงหญ้าใกล้เคียงกับหมู่บ้านสุริยา 1 ม.9 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และกลับมานำรถจักรยานยนต์และหลบหนีไป
ร.ต.อ.เดชชาติ สารุณา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้นำตัวนาย จีระศักดิ์ (หรือนิว) เรียนเที่ยง พร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
