นราธิวาส-จ.นราธิวาส ฝนเริ่มตกต่อเนื่อง โดยมี 2 อำเภอที่ตกหนักมากคือ อ.สุคิรินและ อ.ศรีสาคร ขณะที่ ผวจ.นราธิวาสกำชับทุกพื้นที่เฝ้าระวังพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
สถานการณ์ฝนที่เริ่มตกสะสมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ทางนายสนั่น พงศ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับทุกหน่วยงานในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอให้เตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัยและภัยพิบัติต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก อย่าให้เกิดน้ำท่วมหนักก่อนแล้วเข้าช่วยอพยพ
ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส รายงานปริมาณน้ำฝนรายอำเภอ ณ วันที่ 3 พ.ย. อ.สุคิริน วัดได้ 110.8 มม.เป็นพื้นที่ที่ฝนตกหนักมากและติดอันดับ 1 ใน 10 ของอำเภอที่มีฝนสูงสุดในภาคใต้ ส่วน อ.ศรีสาคร ปริมาณน้ำฝน 54.6 มม.เป็นพื้นที่ที่ตกหนัก ส่วนอีก 11 อำเภอฝนตกเช่นกันแต่ไม่หนักมาก
โดยระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สายคือสายบุรี บางนราและโกลก ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ทางด้าน นาวาเอก พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ (ค่ายจุฬาภรณ์) เปิดเผยว่า ตนเองยึดนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้สมกับคำที่ว่า “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ” รวมถึงนโยบายของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ด้วย ที่มุ่งเน้นทำงานในทุกมิติ โดยในช่วงมรสุมตั้งแต่ห้วงเดือน พ.ย.เป็นต้นไป ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัย ทางค่ายจุฬาภรณ์ได้มีการสนธิกำลังเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก เช่น ตำบลจอเบาะ ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ ตำบลมะนังตายอ อำเภอเมืองนราธิวาส อีกทั้งได้ขนย้ายเรือไปเตรียมพร้อมในที่ตั้งหน่วยในพื้นที่จุดเสี่ยง
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ว่าเกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่บ้านโคกสยา หมู่ 8 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ ( 4 พ.ย.65 ) ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน 1 หลังคาเรือน
