สระแก้ว – ชาวบ้านติดชายแดน จ.สระแก้ว ที่ประกอบอาชีพรับจ้างบรรทุกมันสำปะหลังจากกัมพูชา เข้ามาส่งให้นายทุนฝั่งไทย ร้องขอความเป็นธรรม กรณีกรมการค้าต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ มีมติให้นำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านได้เฉพาะจุดผ่านแดนถาวร จังหวัดละ 1 แห่งเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านขาดรายได้หลังเก็บเกี่ยว หวั่นรถไถทางการเกษตรที่เช่าซื้อมาจะถูกยึดเพราะไม่มีงาน เตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.)
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว มีชาวบ้านที่ประกอบอาชีพรับจ้างบรรทุกมันสำปะหลังจากประเทศกัมพูชา เข้ามาส่งให้นายทุนฝั่งไทย ได้นำเอารถไถทางการเกษตร รถบรรทุก 6 ล้อกว่า 50 คัน มาจอดไว้ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอตาพระยา เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา เพื่อให้ระงับคำสั่งดังกล่าว
ทั้งนี้ นายไสว กันหอม อายุ 53 ปี และ นายสุดที ติกร ชาวบ้านใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แกนนำชาวบ้านและเกษตรกร ได้เข้ายื่นหนังสือมีข้อความระบุว่า เนื่องจากการประชุมพิจารณากำหนดด่านนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ครั้งที่ 1/2561 ที่มี นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธาน และมีผู้แทนจาก กรมศุลกากร กระทรวงมหาดไทย กรมวิชาการเกษตร ผู้แทนเกษตรกร และผู้แทน 4 สมาคม เป็นผู้แทนสมาคมฯ เข้าร่วมประชุม
นายไสว กล่าวว่า ในที่ประชุมสรุปการประชุมได้ดังนี้ คือที่ประชุมได้พิจารณากำหนดด่านถาวรที่นำเข้าทั้งหัวมัน และมันเส้น จังหวัดละ 1 ด่านถาวร ส่วนด่านผ่อนปรน ทางมหาดไทยจะรับไปดำเนินการหารือกับฝ่ายกฎหมาย ในการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากการเปิดด่านผ่อนปรนตามแนวชายแดน เพื่อการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และหลังจากนี้หากมีการออกประกาศกระทรวงอย่างเป็นทางการ และมีอายุการบังคับใช้ ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบแน่นอน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และชาวบ้านเตรียมเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีนี้ต่อ นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) ด้วย
