ฟิตจัด!“จุรินทร์”ทำงานต่อทันที ลุยตรวจราคาสินค้า”แม็คโคร” โคราช
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 เวลา 8.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และนางสาวอรวรรณ ศิริโชติรัตน์ ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายงานประชาสัมพันธ์และประสานรัฐกิจ ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ห้างแม็คโคร สาขานครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เย็นวานนี้ (5 พ.ย.65)โดยในช่วงเช้านายจุรินทร์เพิ่งเดินทางกลับจากภารกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและเดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมาทันทีนายจุรินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์เงินเฟ้อของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง ขึ้นไปสูงสุดในเดือนสิงหาคม 7.86% เดือนกันยายนลดลงเหลือ 6.41% และเดือนตุลาคมยังไม่ออก แต่เท่าที่ติดตามและประเมินเบื้องต้นคาดว่าอาจจะไม่ถึง 6% ซึ่งสะท้อนว่าสถานการณ์ราคาสินค้าในภาพรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลง ต่างกับหลายประเทศที่ประสบตัวเลขเงินเฟ้อสูงมาก เป็นเพราะรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับเอกชนและหลายฝ่าย ช่วยกันกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการเมื่อลงลึกในรายการสินค้าแต่ละหมวดมีหลายตัวที่ราคาปรับลดลงสอดคล้องกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัว เช่น สินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน หมูเนื้อแดง ห้างแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี ซึ่งเป็นห้างค้าส่ง-ปลีก ที่ชี้นำราคาในภาพรวมปรับลดลง ที่แม็คโคร วันที่ 3 พ.ย. ราคากิโลกรัมละ 169 บาท บิ๊กซี 168 บาท โลตัส 170 บาท เฉลี่ยหมูเนื้อแดงลดลง 12.07% จากราคาโครงสร้าง เนื้อไก่ เฉลี่ย ต่ำกว่าราคาโครงสร้าง 3.75-8.01% ราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ลดลงจากราคาโครงสร้าง 12.22% และตัวสำคัญคือน้ำมันพืช โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ราคาลดลงต่ำกว่าราคาโครงสร้าง ก่อนนี้ตกขวดละ 70 บาท ตอนนี้ 47-50 บาท/ขวดโดยประมาณ ถือว่าลดลง สำหรับผัก เช่น ผักชี ลดลงจากช่วงน้ำท่วม 53% ผักกาดขาวปลี ลดลง 32% คะน้า ลดลง 14% เป็นต้น และเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาลดลง มีการจัดรายการลดราคาเป็นพิเศษ มีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคจ่ายน้อยลง และกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน Lot ที่ 20 กระจายทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด มีส่วนช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนลงมา“ราคาพืชผลการเกษตรที่เป็นต้นทุนสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น พบว่า ราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้น เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิปรับขึ้น ราคาตันละ 15,500-16,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,500-14,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,200-9,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 10,500-10,800 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 9,800-11,800 บาท โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ราคา 6-7 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11-12 บาท/กก. มันสำปะหลัง 3 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ถือว่าราคายังดีมาก และมีแนวโน้มดีขึ้นอีกเพราะตนและกระทรวงพาณิชย์พยายามช่วยหาตลาดเพิ่มเติม มีแนวโน้มทำ MOU ล็อตใหญ่กับประเทศฟิลิปปินส์ในวันพรุ่งนี้ ยิ่งทำให้ราคามันสำปะหลังสูงขึ้น ยางพารา ราคาปรับลดในช่วงนี้เพราะการผลิตรถยนต์ขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ กระทบต่อการใช้ยางและโควิดเริ่มคลี่คลายความต้องการใช้ถุงมือยางลดลง แต่อีกช่วงตนคิดว่ามีแนวโน้มดีขึ้น กระทรวงเกษตรฯและการยางแห่งประเทศไทยกำลังเข้าไปดู ส่วนยางก้อนถ้วยราคาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ 20 บาท/กก.โดยประมาณ” นายจุรินทร์กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: