ฉะเชิงเทรา – เผาก่อนกำหนด เพลิงลุกไหม้ศาลาการเปรียญวัดดอนทอง ย่านท่าถ่านพนมสารคาม ระหว่างตั้งสวดพระอภิธรรมศพสาวใหญ่วัย 56 ปีมาได้เพียง 2 คืน จากกำหนดการที่เตรียมไว้รวม 5 คืน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนร่างของผู้วายชนถูกเพลิงไหม้เกรียมเหลือเพียงอวัยวะภายในหล่นจากด้านบนศาลาลงมากองอยู่ที่พื้นดิน ทำอาสาสมัครกู้ภัยฯ ต้องช่วยกันเก็บรวบรวมวุ่นหลังเพลิงสงบ
วันที่ 8 พ.ย.65 เวลา 23.00 น. พ.ต.ท.วิชาญ พวงทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญ ภายในวัดดอนทอง ตั้งอยู่เลขที่ 78 ม.2 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงรีบรุดเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจประจำตำบลท่าถ่าน
ที่เกิดเหตุเป็นศาลาไม้กึ่งคอนกรีตแบบยกพื้นสูง โดยมีส่วนประกอบที่ใช้ไม้เป็นพื้นกระดานทั้งหมด หลังถูกเพลิงไหม้จึงลุกลามอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมให้ดับลงได้โดยง่าย พบมีรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.คู้ยายหมี เทศบาลสนามชัยเขต เทศบาลตำบลท่าถ่าน อบต.เสม็ดเหนือ อบต.พนมสารคาม และ อบต.หนองแหน รวมจำนวน 20 คัน กำลังเร่งระดมฉีดน้ำทำการควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด
โดยใช้เวลานานถึงเกือบ 4 ชม. ก่อนที่เพลิงจะดับสนิทลง หลังจากเกิดเหตุขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. จนถึงเวลา 00.42 น. (9 พ.ย.65) เปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงจึงถูกควบคุมเอาไว้ได้ในวงจำกัด แต่ยังคงมีการครุกรุ่นลุกไหม้ขึ้นมาใหม่อยู่เป็นระจนถึงเวลา 02.30 น. เพลิงจึงดับสนิทลงในที่สุด จากการสอบถามพระใบฎีกาอดุลย์ ถาฐธรรมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดอนทอง ทราบว่า ขณะเกิดเหตุพระสงฆ์กำลังหลับพักผ่อนกันหมดแล้ว
แต่ได้ยินเสียงประทุดังขึ้น คล้ายเสียงระเบิดดังออกมาจากทางด้านหลังห้องเก็บของที่ท้ายศาลา ซึ่งเป็นอาคารเชื่อมต่อถึงกัน โดยใช้เป็นห้องสำหรับเก็บของ ถ้วยชามเครื่องครัว แต่ไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุ หลังได้ยินเสียงดัง จึงได้ลุกออกมาดู จนพบว่ามีเปลวเพลิงกำลังลุกลามไหม้อย่างรวดเร็ว จากห้องเก็บของเข้ามายังที่ตัวศาลา จึงได้พยายามปลุกพระสงฆ์ภายในวัดทั้งหมดให้ตื่นขึ้นมา เพื่อหนีเอาตัวรอด และช่วยกันดับเพลิง ซึ่งครั้งแรกได้พยามยามที่จะใช้สายยางฉีด แต่ไม่ทัน ไม่สามารถสู้เปลวเพลิงที่กำลังลุกโหมไหม้อย่างรวดเร็วได้
ขณะที่ด้านบนศาลานั้น เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาได้มีการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ที่ญาติได้นำมาตั้งสวดเป็นคืนที่ 2 แล้วจากกำหนดการทั้งหมด 5 คืนอยู่ 1 ราย โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 12 นี้ แต่ได้มาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน แต่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากศพได้ตั้งสวดอยู่ห่างจากต้นเพลิงมาก พระใบฎีกาอดุลย์ กล่าว
และกล่าวต่ออีกว่า ส่วนภายในศาลานั้นยังมีกุฏิพักสงฆ์อยู่ด้วยหลายห้อง โดยมีพระสงฆ์ภายในวัดจำวัดอยู่จำนวน 7 รูป รวมถึงพระครูใบฎีกาประทิว ยศปาโล เจ้าอาวาสวัดจำวัดอยู่ภายในศาลาแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งท่านมีอาการอาพาตอยู่ด้วย โดยได้พยายามที่จะเก็บข้าวของหลบหนีเปลวเพลิงออกมา แต่ได้ของติดมือออกมาเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนพระสงฆ์บางรูปนั้นไม่มีอะไรติดตัวออกมาเลย ทั้งยังถูกเพลิงลุกไหม้จีวรขณะหลบหนีออกมาอีกด้วย จนไม่มีจีวรห่ม แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร พระใบฎีกาอดุลย์ ระบุ
หลังรถน้ำจำนวน 20 คันจาก อปท.โดยรอบพื้นที่ ได้เข้ามาสกัดควบคุมเพลิงจนสงบลงได้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกูภัยจึงได้เริ่มเข้าไปตรวจค้นหาศพที่ตั้งสวดพระอภิธรรมอยู่บนศาลา และถูกเพลิงไหม้จนร่วงหล่นตกลงมากองอยู่ที่พื้นที่ดิน จนพบว่าร่างของผู้เสียชีวิตนั้นได้ถูกเพลิงไหม้เกรียมไปเกือบหมดแล้ว โดยเหลือแต่เพียงอวัยวะภายในเท่านั้น จึงได้ทำการเก็บรวบรวมเพื่อนำมามอบให้แก่ญาติตั้งสวดพระอภิธรรม และประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ขณะที่ น.ส.นิชาภา เข็มทอง อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ศพที่ตั้งสวดอยู่บนศาลาที่ถูกเพลิงไหม้นี้ คือ นางกชพร เข็มทอง อายุ 56 ปี มารดาของตนเองที่มีกำหนดสวด 5 คืน และจะฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.นี้ เวลา 15.30 น. บนเมรุวัดดอนทองแห่งนี้ น.ส.นิชาภา ระบุ
ด้าน พ.ต.ท.วิชาญ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าต้นเพลิงเกิดการลุกไหม้มาจากทางด้านหลังของห้องเก็บของ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่นอน โดยจะให้ทางพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานและหาสาเหตุของเพลิงไหม้ ในช่วงรุ่งเช้าต่อไป พ.ต.ท.วิชาญ กล่าว
