X

วุ่นไม่จบ!จัดซื้อที่ดินสหกรณ์ตร.ตรัง นายทะเบียนสั่งกก.-ผจก.นำเงิน 14.7 ล.คืนสหกรณ์ฯ อีกฝั่งพึ่งศาลปกครอง

          ตรัง-คืบหน้าตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ในการจัดซื้อที่ดินกว่า 14.7 ล้านบาท แพงเกินจริง  ล่าสุด นายทะเบียนมีคำสั่งให้กรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ฯ นำเงินคืนกลับสหกรณ์ ขณะที่กรรมการและผู้จัดการยังยื้อ ร้องศาลปกครองพิจารณาคำสั่งนายทะเบียน   ส่วนตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญาแล้ว

จากกรณีที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง  ร้องเรียนสื่อมวลชนและร้องต่อนายทะเบียนสหกรณ์ กรณีพบคณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง  มีการจัดซื้อที่ดิน เพื่อเตรียมจะก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่ ใกล้ถนนเลี่ยงเมือง ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง เนื้อที่ 3 ไร่ 57 ตารางวา เป็นจำนวนเงินสูงถึง 14.7 ล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินทั่วไปเพียง 6,285,000 บาท ส่วนราคาประเมินของสำนักงานที่ดิน จ.ตรัง ทั้งแปลงเพียง 471,375 บาท   ซึ่งถือเป็นราคาที่แพงเกินจริง หรือสูงไร่ละเกือบ 5 ล้านบาท

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  นายสมศักดิ์ บุญโยม สหกรณ์จังหวัดตรัง   กล่าวว่า  หลังจากที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ร้องเรียนนายทะเบียนว่ามีการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานแพงกว่าความเป็นจริง เพื่อให้ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ดำเนินการตามขั้นตอน โดยได้มีการเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปให้ข้อมูล พร้อมกับมีการขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่างๆได้แก่  เรื่องของการประชุมคณะกรรมการหรือว่าการประชุมใหญ่ของสมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนไปให้ปากคำแล้ว ก็ได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการของสหกรณ์และผู้จัดการสหกรณ์ได้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องที่เกิดขึ้น  ด้วยการให้นำเงินกลับคืนให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง   ทั้งนี้หลังจากมีการออกคำสั่งไปแล้ว ทางคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ก็ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง พร้อมกับยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเข้ามา โดยระบุว่า กระบวนการต่างๆที่ดำเนินการอยู่เป็นกระบวนการที่ถูกต้องแล้ว การจัดซื้อที่ดินในราคานั้น จากสภาพพื้นที่ที่ตั้งไม่ได้แพงเกินความเป็นจริง  ทั้งนี้ ทางนายทะเบียนก็จะต้องพิจารณาถึงเอกสารพยานหลักฐานต่างๆ จะต้องใช้ความรอบคอบและรัดกุมในการพิจารณา  ถ้าผลการยื่นอุทธรณ์ออกมาว่าคงตามคำสั่งเดิม ก็เป็นสิทธิของคณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง จะพิจารณายื่นร้องต่อศาลปกครองต่อไป ซึ่งล่าสุด ผลการพิจารณาออกมาแล้ว นายทะเบียนคงคำสั่งเดิมให้กรรมการและผู้จัดการคืนเงินให้กับสหกรณ์ฯทั้ง 14.7 ล้านบาท

ทางด้าน  พ.ต.ต.รชต มณีรัตน์  สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายทะเบียนสอบถามถึงขั้นตอนการดำเนินการเอาผิดกับคณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ฯ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา พร้อมยื่นหนังสือขอหลักฐานคำสั่งและรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง   เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดย พ.ต.ต.รชต มณีรัตน์  สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง  กล่าวว่า  ตนเองได้รับหนังสือจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ สรุปว่าให้คณะกรรมการทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ รวมทั้งผู้จัดการให้แก้ไขข้อบกพร่อง ด้วยการคืนเงินทั้ง 14.7 ล้านบาท คืนกลับให้กับสหกรณ์ฯ  ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีใดก็ตาม ทั้งจากขายกลับคืนให้เจ้าของเดิม หรือขายออกไป ก็ขอให้นำเงินมาคืน  โดยทางกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ก็ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อนายทะเบียน ล่าสุด ได้ข้อยุติแล้ว เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ว่านายทะเบียนยกคำร้องขออุทธรณ์ดังกล่าว  และขณะนี้ทางคณะกรรมการและผู้จัดการได้ยื่นร้องต่อศาลปกครองแล้ว ผลยังไม่ออกมา   ส่วนตัวในฐานะตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ได้เข้ายื่นหนังสือสอบถามนายทะเบียนสหกรณ์ ถึงกรอบการทำงานหลังจากนี้ว่า นายทะเบียนจะดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อที่ดินในทางแพ่งและในทางอาญาหรือไม่  และมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการคืนเงินภายในกี่วัน เพราะในคำสั่งไม่ได้มีการระบุเวลาในการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว ซึ่งควรจะต้องกำหนด ไม่ใช่ปล่อยไว้   และยื่นหนังสือขอเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อที่ดิน  ในฐานะสมาชิกจะนำหลักไปแจ้งความดำเนินคดีคดีอาญาในข้อหาร่วมกันทุจริตต่อไป

นอกจากนั้น ตนเองได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดตรัง ให้ตรวจสอบช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ ได้สรุปผลตรวจสอบพบบกพร่องใน  4 เรื่อง  ประกอบด้วย  1.ผู้จัดการไม่ได้จัดทำงบประมาณรายจ่ายในเรื่องการจัดซื้อที่ดินก่อนจะเข้าประชุมใหญ่ เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของเงิน  2.ประธานคณะกรรมการตั้งคณะกรรมการจัดสรรหาที่ดินโดยไม่ชอบผิดระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย  3. เรื่องการประกาศจัดหาที่ดินไม่ได้บอกวิธีการจัดหา  เช่น การเปิดประมูล การเสนอราคาอย่างไร  ไม่มีการแต่งตั้งคณะคณะกรรมการกลางในการจัดหาที่ดินก่อนการพิจารณาอนุมัติ  และ 4. ทางผู้จัดการและคณะกรรมการได้อ้างในที่ประชุมว่าที่ดินผืนดังกล่าวราคา  14.7 ล้านบาทนั้น  เป็นราคาที่ได้ว่าจ้าง บริษัท ไซมอน ลิม มาประเมินราคา  ทั้งๆที่เป็นการประเมินส่วนตัวไม่ได้ทำในนามบริษัทแต่อย่างใด และเอกสารหลุดออกตามแบบประเมินราคา พบที่ดินแปลงดังกล่าวราคาประเมินเพียง  6,285,000 บาทเท่านั้น     อีกทั้งในการประชุมใหญ่ เพื่อขออนุมัติพบว่ามีการหมกเม็ดผิดระเบียบขั้นตอน เร่งรีบดำเนินการ ซึ่งตามระเบียบจะต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีก่อน เพื่อขออนุมัติที่ประชุมใหญ่  หลังจากที่ประชุมใหญ่อนุมัติในกรอบวงเงินแล้ว  ประธานและกรรมการจะต้องไปกำหนดกรอบในการจัดหาที่ดินแล้วก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการจัดหาที่ดิน เมื่อได้ที่ดิน  ก็จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่อีกครั้งในปีถัดไป ไม่จำเป็นต้องรวบรัดตัดตอน  แต่ที่กรรมการและผู้จัดการดำเนินการคือ หาที่ดินก่อน แล้วมาขออนุมัติจัดซื้อทีหลัง ซึ่งถือเป็นการทำผิดระเบียบโดยชัดเจน  และราคาสูงกว่าราคาประเมินมาก  ซึ่งเงินที่เสียไปเป็นเงินของสมาชิกสูญเปล่าไปโดยไม่ได้ประโยชน์ สมควรต้องดำเนินคดีฟ้องร้องทั้งทางแพ่ง และอาญากับกรรมการ  ล่าสุด ขณะนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ไปเช่าอาคารชั่วคราวเดือนละ 25,000 บาท ปีนึงก็ประมาณ 250,000 บาท  ซึ่งก็เสียเปล่าเช่นกัน ทำให้เห็นว่าคณะกรรมการตัดสินใจผิดพลาดตั้งแต่ตอนต้น จะอ้างเอาความจำเป็นเร่งด่วนว่าสำนักงานจังหวัดจะขอที่คืนที่ทำการเก่า เพื่อไปสร้างหอประชุมก็ฟังไม่ขึ้น  ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน  และถ้ามองในลักษณะความจำเป็นสามารถซื้ออาคารพาณิชย์ใกล้เคียงกับชุมชนที่เส้นทางคมนาคมสะดวกได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน