สระแก้ว – ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว หิ้วโจรชิงทองเสี่ยเขียงเนื้อตลาดศาลาลำดวน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บอกจะเอาเงินไปแต่งงาน ส่วนผู้การฯสระแก้ว ระบุ ตำรวจใช้แผน 9 สกัดจับ ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จนสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อหตุได้อย่างรวดเร็วไม่ถึง 10 ชม.แจ้งเตือนผู้ที่คิดกระทำความผิดแบบนี้ ท่านไม่ได้ใช้เงินแน่นอน ปลายทางของท่านต้องอยู่ในคุกแน่นอน เพราะตำรวจสามารถจับกุมได้ทุกราย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายสวมเสื้อและกางเกงสีดำ ใช้อาวุธปืนจี้ข่มขู่ชิงทองจาก นายบุญทัน ภูวะทิศ หรือเสี่ยอาด อายุ 62 ปี เจ้าของเขียงเนื้อตลาดศาลาลำดวน ในพื้นที่บ้านเหล่า ม.2 ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ได้ทองคำหนัก 7 บาท แล้วใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ สีขาว-ส้ม ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวานนี้ (20 พ.ย.) และสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้พร้อมของกลางเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ได้นำตัว นายฐิติพงษ์ หรือ ปาล์ม ศรีด่าน อายุ 28 ปี ที่อยู่ 276 ม.2 ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณโรงฆ่าสัตว์และเขียงเนื้อของนายบุญทันฯ ผู้เสียหาย โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ฯ และ พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ร่วมทำแผนฯ ดังกล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ ได้สอบถามผู้ก่อเหตุถึงมูลเหตุจูงใจที่ทำให้ต้องก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหารับว่า เคยเห็นผู้เสียหายใส่ทองเส้นใหญ่ในหมู่บ้านมาก่อน จึงขับรถมาวนเวียนแล้วขับรถอ้อมมาจอดใกล้ ๆ แล้วใช้ปืนจี้ ตะโกนให้ผู้เสียหายถอดสร้อยข้อมือทองคำและสร้อยคอส่งมาให้ เมื่อผู้เสียหายส่งสร้อยข้อมือหนัก 3 บาทให้ จึงให้ถอดสร้อยทองคำที่คอออกมาอีกเส้น แต่ผู้เสียหายได้วิ่งหนีลงไปทุ่งนา จึงวิ่งไล่ติดตามไปจนผู้เสียหายสะดุดล้มลง จึงใช้ปืนจี้บังคับให้ถอดสร้อยคอหนัก 4 บาทออกมา และบอกว่า ผมไม่ทำ ให้ส่งทองมา แต่ผู้เสียหายโยนสร้อยไปอีกทาง เมื่อตนวิ่งไปเก็บทอง ผู้เสียหายก็ได้อาศัยจังหวะนี้วิ่งหนี และหลังได้ทอง 7 บาทแล้ว ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายศาลาลำดวน-เขามะกา ซึ่งผู้ก่อเหตุบอกด้วยว่า ต้องการใช้เงิน ทองที่ได้ไป ตั้งใจว่าจะเอาไปเก็บไว้ก่อน แล้วนำไปขายทีหลัง จนกระทั่งมาถูกจับกุมเสียก่อน ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายธิษิพงษ์ฯ ถึงแรงจูงใจที่ทำให้ต้องก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาขอไม่พูด
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ รวบมือฟันแขนพ่อตาขาดเจ้าตัวกับเมียเผยความในใจ ถึงสาเหตุการก่อเหตุ
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
- ลำปางรวบชายสูงอายุวัย 63 ลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่เขตป่าสงวนฯ
- นนทบุรี เจ้าของหอพักแทบเป็นลม หลังจากผู้เช่าหนีค้างค่าเช่าหลักหมื่น เปิดห้องถึงกับผงะพบขยะกองโตสูงท่วมหัวฉี่ใส่ขวดทิ้งไว้เพียบ
นายบุญทัน ภูวะทิศ หรือเสี่ยอาด อายุ 62 ปี เจ้าของเขียงเนื้อตลาดศาลาลำดวน ในพื้นที่บ้านเหล่า ม.2 ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คนร้ายขับรถมาจอดแล้วใช้ปืนจี้ บอกให้ถอดทองคำออกมาให้หมด ตนตกใจ สั่น แต่ดูแล้วว่าคนร้ายคงไม่กล้ายิง จึงถอยหลังแล้ววิ่งหนีไปลงทุ่งนา ซึ่งมีโคลนและติดรองเท้าบูท ทำให้ล้มลง คนร้ายจึงเอาปืนไปจ่อ จี้ใกล้ ๆ บังคับให้ถอดสร้อย จึงลุกขึ้นมาถอดให้ 1 เส้น แต่มันบอกเอาสร้อยคอด้วย จึงถอดสร้อยคอให้ แล้วขว้างทิ้ง นึกว่ามันจะหาไม่เจอ มันยังเจออีก แล้วก็หลบหนีไป
“คนก่อเหตุรู้จักและเคยเจอเรื่อย ๆ เป็นคนในหมู่บ้าน ซึ่งสาเหตุที่มันก่อเหตุครั้งนี้ ผมก็ถามมันเมื่อคืน ถึงสาเหตุที่อยากได้ทองเพราะอะไร โดยถามมันตรง ๆ มันบอกจะเอาไปแต่งเมีย ซึ่งผมถามย้ำว่า มึงจี้กูทำไม มันบอกจะเอาไปแต่งเมีย ซึ่งมันเป็นอย่างงี้ แล้วมันก็ไหว้เรา มันบอกมีเมื่อไหร่ มันจะเอามาคืน ซึ่งมันจะเอามาคืนตอนไหน ตอนแรกก็โมโห แต่เป็นเด็กแถว ๆ หมู่บ้านเรา ก็พูดไม่ออก เพราะเมื่อเช้า แม่มันก็มากราบมาไหว้เรา เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องให้ตำรวจทำตามกฎหมาย ซึ่งสำหรับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเด็กในหมู่บ้านนั้น ผมไม่โกรธ แล้วแต่ตำรวจจะดำเนินคดีไป ” นายบุญทันกล่าวและว่า ตนเองและภรรยาคงต้องเข็ดเกี่ยวกับเรื่องการใส่ทองไปอีกระยะ ต่อไปคงไม่กล้าใส่อีกแล้ว คงจะไม่แขวนสร้อยอีก เข็ด ต้องขอบคุณตำรวจที่ช่วยเหลือจนสามารถตามจับคนร้ายได้โดยเร็ว
ทางด้าน พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นเหตุชิงทรัพย์สร้อยทอง เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวาน ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.65 เวลาประมาณ 08.00 น.เศษ ทางผู้เสียหาย คุณบุญทันฯ ได้ทำธุระอยู่ที่โรงฆ่าสัตว์ โดยซ่อมรถอยู่ ได้มีคนร้าย 1 คน ซึ่งเราจับกุมได้แล้ว เป็นคนในตำบลนี้ ได้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ สีขาว-ส้ม พร้อมอาวุธปืนลูกซองพก ไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน ซึ่งคนร้ายเคยเห็นผู้เสียหายมาแล้ว เคยรู้จัก เห็นว่า ใส่ทองคำทั้งสร้อยคอและเลสข้อมือ จึงมีความประสงค์ต่อทรัพย์ จึงวางแผนเข้ามาใช้อาวุธปืนจี้ข่มขู่ตรงบริเวณที่เกิดเหตุ เอาสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาทและสร้อยข้อมือ หนัก 3 บาท รวมทอง 7 บาท และมีพระนางพญาเลี่ยมทองอีก 1 องค์ ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้ลงพื้นที่มาติดตามกำกับดูแล ร่วมกับ พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ได้มาที่เกิดเหตุและระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตามแผน 9 สกัดจับของตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จึงอยากแจ้งเตือนผู้ที่คิดกระทำความผิดแบบนี้ ท่านไม่ได้ใช้เงินแน่นอน ปลายทางของท่านต้องอยู่ในคุกแน่นอน เพราะตำรวจสามารถจับกุมได้ทุกราย
ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวอีกว่า หลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนกล้องวงจรปิด ไล่เส้นทางในเส้นทางต่าง ๆ จนสามารถควบคุมพื้นที่เป้าหมายว่า คนร้ายจะอยู่ที่ไหน จึงนำฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลท้องถิ่น ซึ่งโชคดีที่เป็นเวลากลางวันและรถคนร้ายสามารถจดจำได้ง่าย ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซด์แบบขาว ลายส้ม ซึ่งลุงผู้เสียหายจำได้ ตำรวจจึงได้สุ่มตรวจรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จนตีกรอบหาผู้ต้องสงสัยที่ครอบครองรถลักษณะนี้ได้ 3-4 ราย ที่ใช้รถแบบนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จนสามารถได้ข้อมูลทำให้คนร้ายรับสารภาพ รวมทั้งตรวจสอบจากข้อมูลโทรศัพท์เกี่ยวกับอาวุธปืน กระทั่้ง จำนนต่อหลักฐานและรับสารภาพ ทั้งนี้ เนื่องจากตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้เร็ว ทำให้ได้ทรัพย์สินกลับคืนมาครบถ้วน ภายในเวลาอันรวดเร็วไม่ถึง 10 ชม. และสามารถส่งทองคืนให้กับผู้เสียหายไปแล้ว สำหรับผู้ต้องหารายนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว จะได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป” เพื่อส่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: