กรุงเทพฯ – ผู้ว่าฯ กทม. เตรียมหารือฝ่ายความมั่นคง ถอดบทเรียนความผิดพลาดจากการชุมนุมช่วงประชุมเอเปค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ยืนยัน เป็นกลาง เป็นอิสระ อย่าโยงการเมือง มาตามระบอบประชาธิปไตย ไม่กลัวการตรวจสอบ
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงภาพรวมการประชุมเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 ที่ผ่านมา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานคร ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรื่องที่ต้องปรับปรุงเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ปรับปรุงได้ และต้องมีผู้อำนวยการเหตุการณ์ที่สามารถคาดการณ์ประเด็นต่าง ๆ ได้ดี
สำหรับการชุมนุมนั้น ได้หารือกับฝ่ายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง การเปิดพื้นที่ลานคนเมืองไม่ได้คิดเอง ได้หารือกับตำรวจ ซึ่งตำรวจเห็นด้วย ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้ 1 เดือน ได้เปิดให้ลานคนเมือง เป็น 1 ใน 7 ที่ชุมนุมสาธารณะ ที่ผ่านมา มีคนขอใช้ทั้งหมด 36 ครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง 14 ครั้ง อีก 22 ครั้งเป็นเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมา เป็นพื้นที่ให้แสดงออกได้ ช่วยลดความขัดแย้งและปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ทำให้คนมาใช้พื้นที่นี้เพื่อแสดงความแตกต่าง และทำให้การวางแผนการบริหารจัดการต่าง ๆ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ยืนยันว่า สิ่งที่เราทำถือว่าได้มีการคิดละเอียดแล้ว อาจจะมีที่มีปัญหาที่ผู้ชุมนุมขยับออกไป และเกิดมีการปะทะขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด แต่ต้องเรียนว่ายังดีกว่าไม่มีพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมาก หาก กทม.บอกว่าไม่ให้มีการชุมนุม แต่มันเป็นการโยนภาระให้คนอื่น กลายว่าผู้ชุมนุมไม่มีที่ชุมนุมที่เป็นสัดเป็นส่วน ก็ต้องไปชุมนุมที่อื่นบนพื้นที่สาธารณะหรือถนน ยิ่งไปสร้างปัญหา คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะไปชุมนุมที่ไหน การรับมือยิ่งยากลำบากมากขึ้นอีก แต่การที่เรากำหนดพื้นที่ ให้เขาสามารถพูดหรือแสดงออกได้ เป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกัน แต่อาจจะมีจุดที่เกิดข้อผิดพลาดบ้าง ก็เป็นบทเรียนที่ต้องพัฒนาขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่า กทม. กล่าวอีกว่า บทเรียนที่ได้ คือ ปัญหาเกิดจากที่คนออกจากลานคนเมืองไปยื่นหนังสือ การแก้ปัญหาในอนาคต จะจัดให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกันได้หรือไม่ จัดผู้แทนจากต่างประเทศมาเจอผู้ชุมนุมที่ลานคนเมืองได้หรือไม่ หรือให้จัดตัวแทนผู้ชุมนุมไปพบ จะได้ไม่มีข้ออ้างว่าจะต้องออกจากพื้นที่ พร้อมสรุปประเด็นที่ผู้ชุมนุมเสนอให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมว่าต้องการอะไร
“ขอบคุณทุกคนที่แสดงความคิดเห็น ซึ่งตรงกับแนวคิดของเอเปค คือ Open เปิดเผย มีพื้นที่ชุมนุม Connect เชื่อมโยงคนทุกคนไม่ว่าความเห็นแตกต่างกันอย่างไร และ Balance คือ ต้องหาความสมดุลของผู้ที่เห็นต่าง ยืนยันไม่ได้สนับสนุนม็อบ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เป็นกลาง เป็นอิสระ ไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง อย่าจับมาโยงเป็นประเด็นการเมือง”
นายชัชชาติ ยืนยันว่า ดูแลทุกคนเท่าเทียมกัน คิดแต่ว่าสิ่งที่ทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของ กทม. การประชุมเอเปคครั้งนี้ ในแง่ของการประชุมจัดไปได้อย่างราบรื่น ผู้นำทุกคนชื่นชมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผลลัพธ์ออกมาคือสิ่งที่เราคาดหวังว่าอยากจะให้ดี อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ไม่ได้บานปลายขนาดที่จะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อการประชุม นี่คือยุทธศาสตร์ที่พยายามวางไว้ และประคองสถานการณ์ให้เอเปคผ่านไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคงต้องทบทวนกับฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งว่า มีอะไรที่จะต้องปรับปรุงหรือไม่ อนาคตพื้นที่นี้ยังมีความเหมาะสมอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปรับเปลี่ยนในอนาคตได้ คงต้องคุยกับตำรวจอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนเองมาตามระบอบประชาธิปไตย ไม่กลัวการตรวจสอบ
