ราชบุรี ในวันนี้( 22 พ.ย. 65 ) พระอธิการสมยศ ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดใหญ่อ่างทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ หาญณรงค์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลห้วยชินสีห์ นางวริศรา รุ่งเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 นายฐปณวัฒน์ พูนพิทักษ์สกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.อ่างทอง ได้พาผู้สื่อข่าว ไปดูวิหารอุโบสถหลังเก่าลักษณะสภาพเก่าทรุดโทรม เป็นอาคารก่ออิฐโบกปูนทับอ หลังคาลดชั้น เครื่องไม้มุงกระเบื้อง ด้านข้างมีชายคาปีนกคลุม มีเสาปูนสี่เหลี่ยมรองรับโครงหลังคาโดยรอบ ที่หัวเสา จารึกนามผู้บริจาคเงินสร้าง บริเวณหน้าบันประตูทางเข้ามีการเขียนข้อความไว้ว่า “ ซ้อมแซม พ.ศ. 2470 ” เผยให้เห็นผนังที่ผุพังจนเห็นอิฐเก่าโบราณ บางจุดมีตะไคร่น้ำเกาะอยู่บริเวณเสาหลังคาผุพังมีรอยโหว่เป็นรูหลายแห่ง ด้านหลังมีรากต้นโพธิ์และต้นไทรเลื้อยเข้าไปภายในโบสถ์เก่าจนทำให้ผนังและหลังคาแตกร้าว ส่วนประตูเป็นไม้สักโบราณ ด้านในมีพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่องค์ใหญ่ อายุหลายร้อยปี สันนิษฐานน่าจะเป็นศิลปะอยู่ในสมัยอยุธยาช่วงพุทธศตวรรษที่ 22 – 23 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยลักษณะสร้างด้วยเนื้อปูนปั้นลงรักปิดทองเก่าโบราณทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่ด้านในจำนวน 2 องค์ ที่มีลักษณะลงรักปิดทองทั้งองค์ และยังมีพระพุทธรูปเนื้อโลหะปางมารวิชัยที่อยู่ด้านหน้าอีก 1 องค์ ด้านข้างมีพระโมกคัลลา – พระสารีบุตร ล้มแตกหักเสียหายทั้ง 2 องค์ และยังพบพระพุทธรูปองค์กลางถูกขโมยเข้ามาตัดเศียรหายไป จนเป็นที่สะเทือนใจของผู้พบเห็น และชาวพุทธเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามนายฐปณวัฒน์ พูนพิทักษ์สกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เปิดเผยว่าพระพุทธรูปถูกโจรกรรมตัดเศียรหายไปมากว่า 10 ปีแล้ว เพราะเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันมาจำพรรษาอยู่ประมาณปี 2553 ช่วงนั้นเศียรพระถูกตัดไปแล้ว แม้รู้ว่าโดนตัดเศียรพระนานแล้วแต่ไม่มีงบประมาณในการบูรณะใหม่ แต่ต่อมามีผู้ใจบุญมาพบเห็นจึงอยากมาร่วมทำบุญและมาติดต่อวัด เพื่อขออนุญาตต่อเศียรพระ ซึ่งหลวงพ่อก็อนุญาต ถือเป็นสิ่งที่ดีให้คนมาสักการะบูชา แต่หากบูรณะใหม่แล้ว ก็ยังพบปัญหาหลังคาเก่ามีรอยรั่วอยู่ ก็จะทำให้องค์พระเสื่อมโทรมได้อีก หลวงพ่อมีดำริว่าอยากซ่อมแซมหลังคาด้วย จึงต้องอาศัยผู้ใจบุญในหมู่บ้านช่วยกัน เนื่องจากองค์พระเป็นศิลปะเก่าแก่ โบสถ์นี้สร้างมีอายุไม่ต่ำกว่า 150 ปี แน่นอน สืบค้นจากคนที่มีอายุมากที่สุดในหมู่บ้านมีอายุ 90 ปีเศษ ไม่รู้ว่าโบสถ์หลังนี้สร้างมาตอนไหน เพราะเกิดมาก็เห็นอยู่แล้ว และได้รับการบูรณะใหม่ใช้คำว่า “ซ่อมแซม พ.ศ. 2470 “ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการซ่อมแซมครั้งที่ 1 และเมื่อมีการสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้น ทำให้โบสถ์หลังถูกปิดตายเพราะเจอปัญหาเวลาฝนตกจะมีน้ำไหลเข้ามาด้วย ส่วนเศียรพระถูกตัดออกไปตอนไหนก็ไม่รู้
ส่วนการบูรณะนั้นทางหลวงพ่อจะให้ทางวิศวกรเข้ามาตรวจสอบก่อน ว่ายังสามารถรับน้ำหนักได้อีกหรือไม่ ส่วนเศียรที่บูรณะได้ให้ช่างดำเนินการอยู่ พร้อมให้ช่างลงรักปิดทองทั้งองค์ กำหนดบูรณะมีค่าใช้จ่ายกว่า 1 แสนบาท แต่จะไม่เกี่ยวกับการบูรณะพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ โดยได้เงินทำบุญจากชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกันทำบุญก่อน คาดว่างบประมาณบูรณะอุโบสถหลังนี้น่าจะประมาณ 6 ล้านบาท อาจจะเสร็จเรียบร้อย แต่ขณะนี้ยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ส่วนการสร้างวัดนั้นไม่ปรากฏหลักฐานในวรรณคดี หรือจารึกต่าง ๆ มีแต่คำบอกเล่าของผู้คนรุ่นเก่าๆ ซึ่งเป็นตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่อโนจา ท่านเป็นชาวเชียงใหม่ ได้ธุดงค์มาพักปฏิบัติธรรมโปรดญาติโยม และชาวบ้านได้เห็นจริยวัตรอันงดงามจนมีความเลื่อมใสศรัทธา เมื่อย่างเข้าเขตการอยู่จำพรรษา ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อให้อยู่จำพรรษา ณ ที่แห่งนี้ และได้เริ่มสร้างกุฏิให้หลวงพ่ออยู่จำพรรษาเพื่อให้พระพุทธศาสนาได้สืบทอดต่อไป หลวงพ่อโนจาได้ดำริจัดตั้งวัดขึ้น ใช้ชื่อภูมิประเทศว่า “วัดใหญ่อ่างทอง” ตามบันทึกทะเบียนวัดของจังหวัดราชบุรี ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดราชบุรี ได้บันทึกไว้ว่า วัดใหญ่อ่างทอง ประกาศจัดตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2325 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 มีหลวงพ่อโนจา เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2382 -2419 ปัจจุบันมี พระอธิการสมยศ ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดใหญ่อ่างทอง ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปที่ 7
สำหรับผู้ใจบุญมีจิตศรัทธาสามารถโอนเงินร่วมทำบุญสร้างเศียรพระสมัยอยุธยาและบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถเก่าโบราณได้ที่ ธนาคารกรุงเทพฯ เลขที่บัญชี 530-054674-3 ชื่อบัญชี วัดใหญ่อ่างทอง หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์เจ้าอาวาสวัด 080-0226723 หรือ เบอร์ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 โทร 085-4242414 หรือ เบอร์ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 โทร 089-9169874
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: