วิกฤตพลังงานที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะราคาพลังงานที่ขยับสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว จึงต้องเร่งจัดหาเชื้อเพลิงสำรองและดำเนินมาตรการประหยัดอย่างเข้มข้นเพื่อรับมือวิกฤตพลังงานครั้งนี้
4 ป. ประหยัดพลังงาน เซฟเงินในกระเป๋า
“ประหยัดพลังงาน” เป็นมาตรการสำคัญที่ทั่วโลกยึดถือปฏิบัติในยามที่เกิดวิกฤตพลังงาน เพราะเป็นวิธีง่าย ๆ ที่พวกเราสามารถทำได้ โดยยึดหลัก 4 ป. คือ
1.ปิด คือ ปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
2.ปรับ คือ ปรับอุณหภูมิแอร์ที่ 25-26 องศาเซลเซียส เพราะการปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสจะช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้ประมาณ 10 %
3.ปลด คือ ปลดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน เพราะการเสียบปลั๊กทิ้งไว้แม้ปิดสวิตซ์ แต่ยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ และทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมคุณภาพเร็ว เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
4.เปลี่ยน คือ เปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประหยัดไฟยิ่งกว่าเดิม
ประหยัดพลังงานช่วยชาติ ลดนำเข้าเชื้อเพลิงราคาสูง
การประหยัดพลังงานถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ก่อให้เกิดผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าที่จะได้ประโยชน์สูงสุดในการช่วยลดรายจ่ายของครอบครัว ขณะเดียวกันยังส่งผลพลอยได้ทำให้ปริมาณการใช้พลังงานในภาพรวมของประเทศลดลง ช่วยลดความเสี่ยงในการขาดแคลนพลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคการผลิตไฟฟ้าที่ต้นทุนส่วนใหญ่คือค่าเชื้อเพลิง การสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้านั้นจะเริ่มจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำสุดไปถึงโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนสูงสุด ดังนั้นหากปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลงจะทำให้ไม่ต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่ใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีต้นทุนสูงเข้ามาในระบบ ส่งผลให้ต้นทุนค่าเอฟทีในภาพรวมลดลง รวมถึงค่าไฟฟ้าด้วย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดใช้พลังงานของพวกเราทุกคนจากจุดเล็ก ๆ ใกล้ตัวที่ลงมือทำได้ทันที นอกจากช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นพลังสำคัญของประเทศที่ช่วยลดใช้พลังงานในภาพรวมเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตพลังงานครั้งนี้ไปด้วยกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: