ทหารระนองยึดยางพาราเถื่อนทะลักจากพม่า 7,925 กก.
วันเดียว “จับกุมผู้ลักลอบขนยางพาราแผ่น 3 คดี รวมของกลาง จำนวน 7,925 กิโลกรัม โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร พื้นที่ชายแดนระนอง
ข่าวน่าสนใจ:
ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี ได้รับเเจ้งจากเเหล่งข่าวว่าบริเวณพื้นที่ท่าน้ำแดง ม.5 บ.น้ำแดง ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง มีการลักลอบขนยางพาราจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร เข้ามายังประเทศไทย จึงได้จัดกำลังพล 1 ชป. เข้าตรวจสอบโดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นลักษณะท่าเทียบเรือหมู่บ้าน ตั้งอยู่ริมเเม่น้ำรอยต่อประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ในระหว่างเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนกำลังขนยางพาราขึ้นรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุดีแม็กซ์ สีน้ำเงิน ตอนเดียว ทะเบียน ชุมพร จึงแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อกลุ่มคนเห็น จนท.จึงได้หลบหนีไป ต่อมามีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของยางพาราดังกล่าว คือ นายเอ (นามสมมุติ) ที่อยู่ ม.4 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง
ซึ่งจากการตรวจสอบ พบยางพารา จำนวน 2,425 กิโลกรัม เเละในเวลา 1830 ได้ขยายผลสืบทราบว่ายังคงมีการใช้เรือหางยาวขนยางพาราแผ่นเข้ามาสู่ฝั่งประเทศไทย บริเวณที่เดิม จึงได้จัดกำลังพลเข้าซุ่มเฝ้าตรวจ พบเห็นรถยนต์กระบะขับเข้ามายังพื้นที่เป้าหมาย และได้ยินเสียงเรือหางยาวสตาร์ทเครื่องมาจากฝั่งประเทศเมียนมา จากนั้น มีรถยนต์ขับเคลื่อนที่มาจอด จำนวน 2 คัน ในลักษณะถอยหลังท้ายกระบะติดกับแม่น้ำกระบุรีเห็นกลุ่มคนเป็นชายจำนวนหนึ่ง ได้ช่วยกันขนยางพาราแผ่น จากเรือมาขึ้นรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุม สามารถตรวจยึดเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ ภายในเรือมียางพาราแผ่น น้ำหนัก ประมาณ 3,000 กก.
ส่วนผู้กระทำผิดได้เร่งเครื่องหลบหนีไปได้ ต่อมาเวลา 21.00 น. ได้สืบทราบว่ายังคงมีการใช้เรือหางยาวขนยางพาราแผ่นเข้ามาสู่ฝั่งประเทศไทยบริเวณเดินอย่างต่อเนื่อง จึงจัดกำลังพลซุ่มเฝ้าตรวจ การณ์พบเรือหางยาว สตาร์ทเครื่องมาจากฝั่งประเทศเมียนมา จากหมู่บ้านหลุมพอยี อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา มาเทียบริมตลิ่งฝั่งไทย และเห็นกลุ่มคนเป็นชายจำนวนหนึ่ง ได้ช่วยกันขนยางพาราแผ่น จากเรือลำดังกล่าวขึ้นมากองบนฝั่งไทย จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ตรวจยึดเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ ภายในเรือมียางพาราแผ่น น้ำหนัก ประมาณ 2,500 กก. ส่วนผู้กระทำผิดได้ว่ายน้ำหลบหนีข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมาได้ รวมของกลางยางพาราแผ่นที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด จำนวน 7,925 กก.
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งให้ด่านศุลกากร จว.ร.น. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: