กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี อนุมัติปรับเพิ่มราคากลางจําหน่ายนม โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ทั้งชนิดถุง-กล่อง 0.31 บาท/ถุง/กล่อง ให้สอดคล้องกับแนวทางการปรับราคานมพาณิชย์ ของกรมการค้าภายใน
วันที่ 6 ธันวาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติปรับเพิ่มราคากลางในการจําหน่าย ผลิตภัณฑ์นม โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เพิ่มขึ้นถุงหรือกล่องละ 31 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติเป็นต้นไป ดังนี้
♦ นมโรงเรียนชนิดพาสเจอร์ไรส์ ราคากลางเดิม 6.58 บาท/ถุง ราคากลางใหม่ 6.89 บาท/ถุง
♦ นมโรงเรียนชนิด ยูเอชที ราคากลางเดิม 7.82 บาท/กล่อง ราคากลางใหม่ 8.13 บาท/กล่อง
การปรับเพิ่มราคากลางในการจําหน่ายนมโรงเรียนถุงหรือกล่องละ 31 สตางค์ครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมติ ครม.ก่อนหน้านี้ (23 ส.ค.65) ปรับราคารับซื้อน้ำนมโคจากเกษตรกรเพิ่มขึ้น 1.5 บาท /กก. ตามต้นทุนการผลิตน้ำนมโคที่เพิ่มขึ้นจากค่าอาหารสัตว์ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก และวิกฤตพลังงานสืบเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตนมโรงเรียนในส่วนค่าน้ำนมโคเพิ่มขึ้น โดยการคํานวณราคากลางนมโรงเรียนใหม่ ยังสอดคล้องกับแนวทางการอนุญาตปรับราคานมพาณิชย์ ของกรมการค้าภายใน ที่อนุญาตให้ปรับราคาเฉพาะต้นทุนน้ำนมดิบน้ำนมโค 1 กก. สามารถนําไปผลิตนมโรงเรียนได้ประมาณ 5 ถุง/กล่อง (ปริมาณ 200 กก. /ถุง/กล่อง ต้นทุนการผลิตนมโรงเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 31 สตางค์/ถุง/กล่อง)
ทั้งนี้ คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน มีมติเห็นชอบการปรับเพิ่มราคากลางนมโรงเรียนดังกล่าวไปแล้ว สําหรับภาคเรียนที่ 2/65 (เดือน พ.ย. 65-มี.ค. 66) และภาคเรียนที่ 1/66 (เดือน พ.ค. 66-ก.ย. 66)
ข่าวน่าสนใจ:
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณนั้น การปรับขึ้นราคานมดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดซื้อนมโรงเรียน ในส่วนโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (เช่น ศูนย์เด็กเล็ก ) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และโรงเรียนเอกชน เนื่องจากมีงบประมาณเพียงพอสําหรับบริหารจัดการ
ยกเว้นโรงเรียนสังกัด กทม. และเมืองพัทยา ที่มีกรอบงบประมาณไม่เพียงพอ ครม.จึงมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานภายใต้ ปรับแผนปฏิบัติการหรือใช้งบประมาณของหน่วยงานมาดำเนินการก่อน หากยังไม่เพียงพอ จึงให้เสนอของบกลางจากสำนักงบประมาณต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: