ตรัง -ชาวสวนยางใต้เปิดเวทีระดมปัญหาของชาวสวนยาง เพื่อยื่นข้อเรียกร้องรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยขณะนี้ราคาน้ำยางสดเหลือกก.ละ 38 -41 บาท ขณะที่ยางแผ่นรมควันชั้น 3 เหลือราคากก.ละ 45-46 บาท ทำให้ชาวสวนยาง และสหกรณ์แปรรูปยางแผ่นรมควันได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาตกต่ำดังกล่าว ทางแกนนำเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้จาก 9 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่แปรรูปยางพาราเป็นยางแผ่นรมควัน และชาวสวนยาง จึงนัดชุมนุมเรียกร้อง และยื่นหนังสือไปยังนายกรัฐมนตรี
วันที่ 8 ธันวาคม 2565 ที่ร้านอาหาร อาณาจักษ์สุวรรณ เนเวอร์แลนด์ ริมถนนเลี่ยงเมือง ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง เครือข่ายชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรังได้รวมตัวกันเคลื่อนไหวเรียกร้องราคายาง โดยมีเครือข่ายชาวสวนยางในภาคได้เดินทางมาร่วมด้วย โดยในภาคเช้าทางแกนนำได้ขึ้นรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง พร้อมออกปราศรัย ประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงไปตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลนครตรัง เพื่อประกาศให้เห็นถึงความเดือดร้อนของชาวสวนยาง จากนั้นไปรวมพลชุมนุมกันที่ร้านอาหารดังกล่าว โดยมีตัวแทนจากทุกจังหวัด และชาวสวนยาง มาร่วมประมาณ 100 คน และมีการหมุนเวียนขึ้นปราศรัย พร้อมเสนอข้อเรียกร้อง ให้รัฐเร่งแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงการต่างๆตามนโยบายรัฐบาลที่ล้มเหลว ทั้งนี้ รัฐบาลชุดนี้ผ่านมา 3 ปี จะหมดวาระใกล้หาเสียงใหม่แล้ว แต่ไม่แก้ปัญหาให้เกษตรกร
ชาวสวนประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งฝนตกมา 2 เดือน กรีดยางไม่ได้ โรคใบยางร่วง ทำให้ปริมาณน้ำยางออกน้อย ซึ่งสวนทางและไม่สอดคล้องกับกับราคายางที่ตกต่ำ จึงขอให้มีการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการใช้ยางภายในประเทศ จะทำให้ราคายางพาราดีขึ้น เช่น โครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ เช่น การทำเสาหลักนำทาง การทำแท่งแบริเออร์จากยางพารา ที่ขณะนี้โครงการหยุดชะงัก โดยครม.มีมติให้ใช้ยางจำนวน 2แสนตัน แต่ทำได้จริงเพียง 2หมื่นตัน เท่านั้น โครงการหยุดชะงัก ทำให้สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมนที่ร่วมโครงการกว่า 10 แห่ง เป็นหนี้เป็นสิน แห่งละ 5-15 ล้านบาท ,โครงการชะลอการขายยาง ทั้งน้ำยางสด และยางแผ่นรมควัน ก็หยุดชะงัก จึงเรียกร้องให้เร่งดำเนินการต่อจะทำให้ราคายางดีขึ้นแน่นาน , ปัญหา ,ปัญหาต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำยางสดกับราคายางแผ่นรมควันใกล้เคียงกัน ทำให้ทุกสถาบันประสบปัญหาขาดทุน แห่งละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทโดยเชื่อหากรัฐไม่เร่งแก้ปัญหาราคา หลายสถาบันอาจเลิกกิจการในปีหน้า ,ปัญหาปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยที่ยังมีราคาแพงกว่า 2 เท่า ,ปัญหาโรคใบร่วงที่กำลังระบาดหนักในทุกจังหวัด ทำน้ำยางน้อย ราคายางตก และให้รัฐเร่งยกระดับสวนยางสู่มาตรฐานสากล ในการจัดการสวนป่าที่ยั่งยืน FSC เพราะจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศคู่ค้า ,รวมทั้งเรียกร้องให้การแต่งตั้งบอร์ดการยางชุดใหม่ มีตัวแทนชาวสวนยางตัวจริง ไม่มีคนของนักการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์เข้าไป เพราะที่ผ่านมายึดโยงกับนักการเมืองและผลประโยชน์ จึงทำให้ไม่ได้ทำงานเพื่อเกษตรที่แท้จริง แต่กลับเข้าไปหาผลประโยชน์ และประกาศหากพรรคการเมืองใด นำข้อเสนอขอชาวสวนยางไปทำเป็นนโยบายพรรค และออกกฎหมายการใช้ยางทำถนนไม่ต่ำกว่า 50% เหมือนกรณีออกกฎหมายกัญชา พืชกระท่อม ชาวสวนยางทั่วประเทศจะรณรงค์หาเสียงช่วยพรรคการเมืองนั้น
ทั้งนี้ในเวลาประมาณ 15.30 น. แกนนำจะเดินไปยื่นต่อผู้ว่าฯถึงนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยมีนายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา ปลัดจังหวัดตรัง เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: