เชียงราย-ชาวบ้านรวมตัว! วอนเร่งรัดคดีเงินกองทุนฌาปนกิจฯ หลังเจอเจ้าของกองทุนขี้โม้ นัดจ่ายแต่เบี้ยวหลายรอบ ล่าสุดนัดขอเคลียร์ปลายปีนี้!
วันที่ 18 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ไปแจ้งความกับเจ้าของกองทุนสวัสดิการสายบุญเชียงราย ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นและไปชักชวนชาวบ้านเข้าเป็นสมาชิก โดยอ้างว่าเมื่อสมาชิกเสียชีวิตทายาทจะได้รับเงินช่วยงานศพหรือเงินฌาปณกิจสงเคราะห์ รายละ 85,000 บาท โดยมีการเรียกเก็บเงินค่าแรกเข้าคนละ 3,000 บาท และเก็บรายเดือนอีก 530 บาทต่อเดือน ซึ่งชาวบ้านที่เป็นสมาชิกและเสียชีวิตเป็นรายแรกๆจะได้รับเงินตามที่คนชักชวนกล่าวอ้าง แต่พอดำเนินการมาได้ 3-4 ปี ชาวบ้านเริ่มผิดสังเกตุ เพราะกองทุนดังกล่าวไม่จ่ายเงินให้ทายาทเมื่อมีสมาชิกเสียชีวิต มีผู้เดือดร้อนหลายราย จนสร้างความไม่เชื่อมั่นกับสมาชิกรายอื่น และทางกองทุนได้ปิดตัวลงไปเมื่อช่วงประมาณกลางปี 65 จนมีชาวบ้านต่างทยอยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เทิง โดยมีการรวมกลุ่มใหญ่เข้าแจ้งความไปเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา และทาง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้สั่งการให้ รอง ผบก.ได้เข้ามาติดตามควบคุมการสอบสวนแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าของคดีไปยังผู้เกี่ยวข้อง ทราบว่าตอนนี้มีผู้เสียหายในพื้นที่ อ.เทิง ที่เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของกองทุน “สวัสดิการสายบุญเชียงราย” รวมแล้วนับ 1,000 ราย แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่เพิ่งทราบเรื่องก็ทยอยนำหลักฐานเข้ามาความก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทยอยเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกระยะเวลาหนึ่ง เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีเพียงไม่กี่นาย ซึ่งทางเจ้าของกองทุนดังกล่าวได้เคยเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่จะมีผู้เสียหายกลุ่มใหญ่มาแจ้งความ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ โดยรับปากจะนำเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกทุกรายภายใน 120 วัน
แต่จากการสอบถามชาวบ้านที่ได้มารวมตัวกันที่บ้านเกี๋ยงดอย ม.3 ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย ในวันนี้ ชาวบ้านบอกว่าได้พยายามติดต่อสอบถามไปที่ “นางเหรียญ” และ “นายเบิ้ม” เจ้าของกองทุนและสามี ทั้งคู่ก็อ้างว่าไปกู้เงินมาได้จำนวนหนึ่ง จะนำมาจ่ายให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ผลัดผ่อนมาเรื่อย บอกว่าต้นเดือนจะจ่ายบ้าง ปลายเดือนจะจ่ายบ้าง ล่าสุดขอเลื่อนจะไปจ่ายให้ก่อนสิ้นปี 65 และยังมีคนที่อ้างว่าชื่อ “อาจารย์เทพ” ซึ่งโม้ว่าตัวเองรู้จักกับข้าราชการระดับสูงใน “สตช .” โดยตัวนางเหรียญประธานกองทุนได้มาติดต่อให้ช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยได้รับปากช่วยและได้เตรียมเงินไว้ให้แล้ว 15 ล้านบาท แต่ยื่นเงื่อนไขห้ามชาวบ้านแตะต้องประธานกองทุนและพวก แต่ชาวบ้านบอกไม่เชื่อคำโว อยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยเร่งรัดคดี และต้องการเงินที่จ่ายไปทั้งหมดคืน
นายประธาน ทองคำ อายุ 62 ปี อดีต ผญบ.เกี๋ยงดอย ม.2 ต.แม่ลอย เผยว่า ตนได้ติดต่อสอบถามความคืบหน้าไปที่ทาง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เทิง เพราะอยากให้เร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเรียกร้องค่าเสียหายให้กับชาวบ้าน แต่ทางรองผู้กำกับบอกว่า ในส่วนของการจับกุมจะต้องดำเนินการอย่างแน่นอน แต่ต้องรอให้กระบวนการสอบปากคำผู้เสียหายให้แล้วเสร็จเสียก่อน วันนี้จึงต้องมีการมารวมตัวกันเพื่อกระตุ้นให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ได้เดินหน้า ไม่งั้นคดีก็จะล่าช้าไป”ทางฝั่งเจ้าของกองทุนได้พยายามพูดหลอกให้ชาวบ้านมีความหวังว่าจะเอาเงินมาจ่ายให้วันนั้นวันนี้ ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ ล่าสุดก็เลื่อนไปเป็นสิ้นปีอีก” อดีต ผญบ.บ้านเกี๋ยงดอย กล่าว
