นราธิวาส-พนังกั้นน้ำตลาดมูโนะแตกกลางดึก ทหารเร่งขนย้ายท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส เข้าสู่ขั้นวิกฤต โดยในช่วงคืนที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในแม่น้ำโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมและรองรับมวลน้ำป่าซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลบ่าลงมาบรรจบ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโก-ลก เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่ง และได้ไหลระบายลงสู่ทะเลด้านปากอ่าว อ.ตากใบ ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเมื่อไหลผ่านพนังกั้นน้ำด้านหลังของตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นช่วงโค้งที่พนังกั้นน้ำเก่าเชื่อมต่อพนังกั้นน้ำใหม่ ได้ต้านแรงดันของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากไม่ไหว ได้พังลงมาในช่วงคืนของวันที่ 18 ธ.ค.65 และด้วยแรงดันของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนที่ตลาดมูโนะอย่างรวดเร็ว จนในช่วงเช้าของวันนี้ภายในตลาดมูโนะมีระดับน้ำท่วมขังสูง โดยเฉลี่ย 80 ถึง 100 ซ.ม. บางจุดมีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกรากและระบายลงพื้นที่ราบลุ่มต่ำ
แต่ถึงอย่างไรก็ตามในช่วงคืนที่ผ่านมา พันโท สกล มีสัมฤทธิ์ ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 151 พร้อมกำลังพลจำนวนหนึ่ง ได้นำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนและสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นหนีระดับน้ำท่วมขังกันเกือบตลอดทั้งคืน ซึ่งประชาชนบางส่วนได้อพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนดารุลฟุรกอน และศูนย์เด็กเล็กนูรุลยาบาล ซึ่งผลกระทบจากพนังกั้นน้ำแตกในครั้งนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมขัง จำนวน 946 ครัวเรือ รวม 2,691 คน
ส่วนในพื้นที่ อ.ระแงะ ในช่วงคืนที่ผ่านมา พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.ทพ.45 ได้สั่งการให้ พ.อ.ณัฐภูมิ ฉัตรภูมิ รอง ผบ.ฉก.ทพ.45 พร้อมกำลังพลเข้าทำการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ต.ตันหยงมัส และ ต.บาโงสะโต ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 50 ถึง 60 ซ.ม. โดยได้ใช้ยานพาหะของหน่วยในการขนย้ายประชาชนและยานพาหนะ หนีระดับน้ำที่กำลังระบายลงสู่คลองตันหยงมัส เพื่อระบายอีกทอดหนึ่งลงสู่แม่น้ำบางนรา
และจากผลพวงของสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในครั้งนี้ ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาระหว่างเขตรอยต่อของแต่ละอำเภอได้ เนื่องจากมีปริมาณน้ำท่วมขังถนนสายหลักสำคัญๆ หลายสาย อาทิ สายสุไหงโก-ลก- ตากใบ, สายสุไหงโก-ลก – แว้ง, สายสุไหงโก-ลก – สุไหงปาดี และสายสุไหงโก-ลก – ตากใบ ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 60 ซ.ม. ยานพาหนะขนาดเล็กทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ อีกทั้งโรงเรียนในสังกัดพื้นที่การประถมศึกษาและสังกัดมัธยมศึกษา รวมทั้งโรงเรียนสังกัดเอกชน ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนกว่า 57 แห่ง จากอุปสรรคน้ำท่วมถนนและสถานศึกษา ทำให้ทางจังหวัดนราธิวาสประกาศพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว เพื่อตั้งงบประมาณออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชนได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: