X

เปิดขบวนการขนรถข้ามโขงรูปแบบใหม่ หารถตรงสเป็ก โอนใส่ชื่อคนขับ ก่อนส่งออกทางด่าน

นครพนม – เปิดขบวนการขนรถข้ามโขงรูปแบบใหม่ หารถตรงสเป็ก โอนใส่ชื่อคนขับ ก่อนส่งออกทางด่านแล้วหายเข้ากลีบเมฆ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 นายจิรศักดิ์  แสงราม อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 7 บ้านดงยอ ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม  จ.นครพนม  ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวหลังได้รับหนังสือแจ้งจากด่านศุลกากรนครพนม ให้นำรถยนต์กลับเข้ามาในราชอาณาจักร โดยนายจิรศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ตนได้รับการว่าจ้างจากนายแสวง ชาดง ชาวบ้านดงยอ  ต.นาถ่อน ให้ขับรถยนต์ กระบะสี่ประตูยี่ห้อ โตโยต้า หมายเลขทะเบียน กธ 9441 ปทุมธานี ข้ามด่านสะพานมิตรภาพ 3 จากนครพนมไปยังเมืองท่าแขกแขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยให้ค่าจ้าง 4,500 บาท ตนเห็นว่ารายได้ดีจึงตกลงรับจ้างขับให้ โดยก่อนที่จะขับข้ามด่าน นายแสวง ได้ขอสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของตนไป เพื่อโอนกรรมสิทธิ์รถคันดังกล่าวเป็นชื่อของตนก่อนที่จะขับข้ามสะพานมิตรภาพ 3 เพื่อข้ามไปยังฝั่งลาว และเมื่อโอนรถมาเป็นชื่อของตนเสร็จก็นัดหมายกันที่ด่านสะพานมิตรภาพ 3 จังหวัดนครพนมโดยทำพิธีการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ขับรถข้ามสะพานไปยังฝั่งลาวทันที และเมื่อผ่านพิธีการที่ฝั่งลาวเสร็จก็จะมีคนมารับรถไป โดยให้ตนนั่งรถโดยสารกลับ มายังฝั่งไทย ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ตนก็ได้รับหนังสือจากด่านศุลกากรนครพนมให้นำรถยนต์คันดังกล่าวกลับเข้ามาในราชอาณาจักรภายใน 15 วัน โดยระบุว่าการที่ตนนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นั้นตนได้ทำสัญญาว่าจะนำรถยนต์คันดังกล่าวกลับเข้ามาภายในเวลาที่กำหนดและเพื่อเป็นประกันว่าตนจะนำรถกลับมา ตนจึงขอประกันตนเองเป็นเงิน สามล้านเก้าแสนบาท  โดยรับรองว่าหากตนผิดสัญญาจะนำเงินจำนวนนี้มาชำระต่อกรมศุลกากร ซึ่งตนรู้สึกตกใจมาก จึงได้เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ที่ด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม โดยได้ชี้แจงไปตามความเป็นจริงทุกอย่าง เนื่องจากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงโดนหลอกให้ขับรถข้ามประเทศ ซึ่งหลังให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่แล้วก็ได้เดินทางกลับ

ด้านนายธนดล มะโนมัย อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 7 ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนมพร้อมด้วยนายอนันต์  โทคำมาซึ่งตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ด้วยเช่นกันเปิดเผยว่า ทั้งคู่ก็ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากนาย แสวง ชาดง ให้ขับรถข้ามด่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ค่าเหนื่อยคนละ 4,500 บาท และก็ได้รับหนังสือแจ้งจากด่านศุลกากรนครพนมให้นำรถกลับมาเช่นกัน  ซึ่งพวกตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรปกติก็มีอาชีพรับจ้างขับรถอยู่แล้วเมื่อมีคนมาจ้างให้ขับไปไหนมาไหนก็จะรับงานบางครั้งก็ได้ 3 ร้อยบาทบ้าง  5 ร้อยบาทบ้างแล้วแต่ว่าจะไปใกล้หรือไกล ครั้งนี้มีการเสนอให้ตั้ง 4,500 บาท ตนก็ตัดสินใจรับงานทันที โดยก่อนจะขับรถข้ามสะพานเขาจะโอนสิทธิ์การครอบครองให้คนขับก่อน และเมื่อขับข้ามไปถึงฝั่งลาวแล้วก็จะมีคนมารับรถต่อไปทันที ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเพียงแต่ทำตามที่นายแสวง คนที่ติดต่อให้ตนมาขับรถให้เท่านั้น เมื่อมีคนมารับรถแล้วเขาก็ส่งขึ้นรถโดยสารกลับฝั่งไทยทันที นายธนดล กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 6 ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายแสวง ชาดง  ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ โดยนายแสวง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนรู้จักกับนายบอย ชาวบ้านแสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ปัจจุบันไปทำงานที่กรุงเทพ โดยนายบอย จะเป็นคนติดต่อมาให้หาคนขับรถข้ามด่านสะพานมิตรภาพ 3 ไปยังแขวงคำม่วน โดยให้ค่าจ้างคันละ หนึ่งหมื่นบาทตนก็อาศัยหักค่าหัวคิวไว้ หกพันห้าร้อยบาท คงเหลือค่าจ้างให้คนขับ คันละ สี่พันห้าร้อยบาท โดยเท่าที่จำได้ตั้งแต่ต้นปีมามีจ้างไปแล้ว ประมาณ 7 ถึง 8 คน ซึ่งตนมีหน้าที่หาคนขับรถให้เขาเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ตนไม่ทราบเรื่อง โดยปกติจะมีนายทุนคนลาว ชื่อตุ๊ก หรือนายเพชรมะนี ไพจะเลิน เป็นคนติดต่อประสานโอนเงินซื้อขายรถกัน กับนายบอย เมื่อได้รถแล้วก็ประสานมายังตนให้หาคนขับให้ โดยก่อนจะขับข้ามสะพานจะต้องโอนเล่มทะเบียนให้เป็นชื่อของคนขับเสียก่อน ซึ่งตนเห็นว่าไม่น่าจะผิดกฎหมายอะไรเพราะเขาสามารถโอนทะเบียนกันได้จึงรับเป็นคนหาคนขับให้ แถมยังได้ค่าตอบแทนอย่างงาม จึงทำมาเรื่อยๆ   โดยไม่รู้ว่าผิดกฎหมายอย่างไร

ด้านนายอังกูร อังคะเจริญ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางด่านศุลกากรนครพนมตรวจพบว่ามีการนำรถออกนอกราชอาณาจักร แล้วไม่นำกลับมาตามกำหนดเวลาเป็นจำนวนมาก จึงได้มีหนังสือไปยังเจ้าของผู้ครอบครองรถเหล่านั้น เพื่อให้เจ้าของรถมาให้ปากคำ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงไม่สามารถนำรถกลับมาตามกำหนด ซึ่งบางคนอาจมีความจำเป็นรถเสียระหว่างการใช้งานซ่อมไม่เสร็จ จึงไม่สามารถนำรถกลับมาได้ ก็มี หรือบางรายนำรถกลับมาแล้วแต่ไม่ได้นำเอกสารมาแจ้งเจ้าหน้าที่ทำให้ยังมีรายการแสดงอยู่ในระบบ ทางด่านศุลกากรจึงใคร่ขอความร่วมมือกับผู้ที่ได้รับหนังสือแจ้งให้เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลตามความเป็นจริง ซึ่งทางด่านศุลกากรนครพนมจะได้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบปฎิบัติต่อไป

โดยมีรายงานล่าสุดว่า มีชาวบ้านหลายหมู่บ้านใน ต.นาถ่อน เช่นบ้านดงยอ บ้านดงติ้ว บ้านแสนพัน จำนวนหลายสิบคน ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันนี้ โดยส่วนใหญ่ได้รับหนังสือแจ้งจากด่านศุลกากรแล้ว แต่ยังไม่กล้าเข้ามาให้ปากคำเนื่องจากเกรงว่าจะถูกปรับเป็นเงินนับล้านบาทตามมูลค่าที่แจ้งในหนังสือจึงจะรอสอบถามจากผู้ที่มาพบเจ้าหน้าที่เสียก่อน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน