กรุงเทพฯ – กองทัพเรือสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ผู้บัญชาการทหารเรือเสียใจกำลังพลเสียชีวิตและสูญหาย ยืนยันตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตรงไปตรงมา
วันที่ 20 ธันวาคม 2565 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ แถลงว่า กองทัพเรือสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอัปปาง อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงประทานยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ให้กำลังพลประจำเรือผู้ประสบภัยทุกนาย ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อกองทัพเรืออย่างหาที่สุดมิได้
และขอแสดงความเสียใจต่อญาติของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่วันนี้ (20 ธ.ค.) พบผู้ประสบภัยเพิ่ม 6 นาย โดยมีชีวิต 1 นาย และเสียชีวิต 5 นาย
อย่างไรก็ตาม ช่วงค่ำที่ผ่านมา กองทัพเรือสรุปรายงานการตรวจพบผู้ประสบภัยเพิ่ม จากเดิม 6 นาย เป็น 7 นาย โดยอีกนายเป็นผู้เสียชีวิต ส่งผลให้ยอดรวมขณะนี้ พบผู้เสียชีวิต 6 นาย รอดชีวิต 1 นาย เหลือที่ยังคงสูญหายอีก 23 นาย
ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรือหลวงสุโขทัยได้รับภารกิจให้ออกลาดตระเวนช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล จากสภาพอากาศ ที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า เป็นช่วงมรสุมกำลังแรง ก่อให้เกิดคลื่นลมรุนแรง ทะเลคลื่นสูง 3-4 เมตร ตลอดช่วงอ่าวไทย น้ำเข้าเรือจำนวนมากและที่บริเวณหัวเรือ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบเครื่องไฟฟ้าและเครื่องจักรของเรือ พยายามสูบน้ำออกตามขั้นตอน แต่ไม่สามารถสูบออกได้ทันตามปริมาณน้ำที่เข้ามา เป็นผลทำให้น้ำในตัวเรือเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องยนต์ซ้ายถูกน้ำและเครื่องยนต์ใบจักรสูญเสียการควบคุม เหลือเครื่องยนต์ขวาเพียงตัวเดียว จึงไม่สามารถเดินเรือได้
ทั้งนี้ กองทัพเรือจะต้องรายงานเหตุการณ์ ความสูญเสียทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ตามระเบียบและกฎหมาย ด่วนถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาเหตุการอัปปาง รวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่า เสื้อชูชีพไม่เพียงพอกับกำลังพลในส่วนที่มาสมทบ เพื่อไปทำภารกิจที่หาดทรายรี จะต้องถูกสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมาที่กองทัพเรือ แม้บนเรือมีเสื้อชูชีพและติดตั้งแพชูชีพที่เพียงพอต่อกำลังพลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม พล.ร.อเชิงชาย กล่าวว่า บางเรื่องถ้าเป็นเรื่องของความลับทางราชการ ก็ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร ยืนยันกองทัพเรือไม่ปกปิดข้อมูล และจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกคนได้ทราบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยที่อาจเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
