พังงา-กฤษ ศรีฟ้า ชูการเมืองสีขาว คุณธรรมนำการเมือง หลังมีผู้สนับสนุนมากกว่า 6,000 คน เตรียมปักธงพรรคเพื่อไทยในพังงา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานสวนสาธารณะอุทยานพระนารายณ์ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายกฤษ ศรีฟ้า อดีต สส.จังหวัดพังงา เขต 2 พรรคไทยรักไทย เมื่อ พ.ศ. 2548 จัดกิจกรรมพบปะผู้สนับสนุนกิจกรรม “ก้าวเพื่อพังงา การเมืองสีขาว คุณธรรมนำการเมือง” ที่ได้ออกวิ่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอคุระบุรี-อำเภอตะกั่วป่า-อำเภอกะปง และอำเภอท้ายเหมือง จำนวน 6,000 คน เพื่อเตรียมคืนสังเวียนการเมืองระดับชาติ ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.จังหวัดพังงา เขต 2 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยได้เริ่มต้นออกวิ่งตั้งแต่เขตรอยต่อจังหวัดระนอง ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ออกวิ่งไปยังทุกตำบลใน 4 อำเภอ และพบว่าแต่ละพื้นที่ มีผู้สนับสนุนออกมาร่วมวิ่งและร่วมกิจกรรมพบปะพูดคุยกันเป็นจำนวนมาก จนมาสิ้นสุดการวิ่งที่เขตเทศบาลเมืองตะกั่วป่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ซึ่งพบว่ามีจำนวนผู้สนับสนุน มากกว่า 6,000 คน และยังคงมีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประกาศตัวพร้อมลงสู่สนามการเมืองใหญ่ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.จังหวัดพังงา เขต 2 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย
นายกฤษ ศรีฟ้า กล่าวว่า กิจกรรม“ก้าวเพื่อพังงา การเมืองสีขาว คุณธรรมนำการเมือง” ได้ดำเนินการรวม 22 วันเราได้ลงไปสัมผัสพื้นที่ทุกหมู่บ้านทุกตำบลในเขตพื้นที่ อำเภอกะปง-ตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง-คุระบุรี โดยทุกพื้นที่ที่ลงไปเราก็ได้สัมผัสถึงปัญหาความต้องการ สัมผัสถึงความสุขทุกข์ของพี่น้องประชาชน สัมผัสถึงศักยภาพของพื้นที่แต่ละพื้นที่ ที่มีความแตกต่างและมีความเหมือนกัน นับเป็นกิจกรรมที่ที่ทำแล้วมีความสุขเป็นอย่างมาก โดยข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อหลายภาคส่วนเรียกร้องให้กลับมาทำงานการเมืองอีกครั้ง จึงได้ตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องทำการเมืองที่เป็นการปฏิบัติธรรม เพราะเป้าหมายชีวิตนั้นไม่ใช่เป้าหมายทางการเมือง แต่เป็นเป้าหมายเพื่อการปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้นถ้าทำการเมืองให้เป็นการปฏิบัติธรรมได้ ก็จะทำการเมือง
คือการเมืองสีขาวคุณธรรมการเมือง ซึ่งเราก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราที่จะต้องมีความเพียรมีความมุ่งมั่นมีความตั้งใจที่จะทำขณะเดียวกันเราก็ไม่ทราบว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหนเราก็เลยต้องขอลงไปวิ่งรณรงค์ในเรื่องนี้ก่อน ถ้ามีเสียงสนับสนุนเกิน 6,000 คนภายในวันที่ 10 ธันวาคม ก็จะกลับมาทำการเมือง ซึ่งพบว่าเสียงสนับสนุนทะลุ 6,000 คนตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงเป็นเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่ได้ตัดสินใจที่จะลงทำงานการเมืองอีกครั้ง ในสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่มีหัวใจคือประชาชนอยู่แล้ว หลักการที่สำคัญก็คือหลักการที่ต้องฟังเสียงประชาชนว่าประชาชนในพื้นที่มีปัญหาอะไรมีความต้องการอะไรและมีฉันทามติร่วมกันที่จะให้ดำเนินการเรื่องอะไรซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่เราจะต้องดำเนินการ
