จังหวัดระนอง-จัดฝึกอบรมโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน /ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติด
วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดระนองที่ 1 ตำบลบางนอน อำเภอเมือง จังหวัดระนอง นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน /ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จัดโดยที่ทำการปกครองจังหวัดระนอง จัดขึ้นเพื่อพัฒนาให้เป็นผู้นำหรือเป็นแนวร่วมในการทำกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยมีนายปกาสิต พรประสิทธิ์ นายอำเภอเมืองระนอง รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดระนอง กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ วิทยากร และผู้เข้าร่วมฝึกอบรม จำนวน 101 คน เข้าร่วม
ด้วยกรมการปกครอง ได้กำหนดให้จังหวัดระนองจัดทำโครงการฝึกอบรมเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนหรือเป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์จำนวน 101 คน ชาย 71 คน หญิง 30 คน เพื่อพัฒนาให้เป็นผู้นำหรือเป็นแนวร่วมในการทำกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 21 – 23 ธันวาคม 2565 ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดระนองที่ 1 ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนอย่างดียิ่งจากสำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดระนอง อำเภอทุกอำเภอ วิทยากรจิตอาสา 904 ประจำพื้นที่จังหวัดระนอง ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 ทีมวิทยากรการปฐมพยาบาลและฟื้นคืนชีพจังหวัดระนอง และท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง
นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน พบว่ามีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างกว้างขวางและรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อประเทศชาติหลายด้านทั้งด้านกำลังคน ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการเมืองการปกครอง รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์หลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2566 ประกอบด้วย 6 มาตรการ คือ ความร่วมมือระหว่างประเทศ การปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย การป้องกันยาเสพติด การบำบัดและรักษาผู้ติดยาเสพติด และการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ
โดยการจัดโครงการเครือข่ายหมู่บ้านชุมชน ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด งบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้รับรู้และตระหนักรู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหมู่บ้านชุมชน รวมถึงตัวเยาวชนและครอบครัว และเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรม อาสาพัฒนาป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าว และที่สำคัญต้องขอชื่นชม เยาวชนทั้งหลายที่มีความตั้งใจเข้าร่วมการฝึกอบรม และขอให้นำความรู้ประสบการณ์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมต่อไป และขอให้การจัดโครงการฯ บรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ
